กลุ่มเครือข่ายชาวเลอันดามัน ยื่น แถลงการณ์ปกป้องหาดไม้ขาว ให้เต่ามะเฟืองและพื้นที่นอนหาดชาติพันธุ์ชาวเลผืนสุดท้าย เพื่อขอให้จังหวัดภูเก็ต ช่วยเหลือ และตรวจสอบ กรณีมีการอนุญาตให้บริษัทเอกชนเช่าทำสัญญาก่อสร้างโรงแรมขนาดใหญ่
ที่ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รับหนังสือแถลงการณ์ปกป้องหาดไม้ขาว ให้เต่ามะเฟืองและพื้นที่นอนหาดชาติพันธุ์ชาวเลผืนสุดท้าย จากนายบรรชา หาดทรายทอง เครือข่ายชาวเลอันดามัน โดยได้ยื่นแถลงการณ์ฯ มีรายละเอียดกล่าวว่า “สืบเนื่องจากมีการบุกรุกปักเสาลวดหนามแสดงการครอบครองเพื่อทำโรงแรมขนาดใหญ่ ในพื้นที่อนุรักษ์หาดไม้ขาวให้เต่าทะเลวางไข่และพื้นที่ “ประเพณีนอนทาด” พื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลฯ บริเวณหาดไม้ขาวตำบลไม้ขาว อำเภอดลาง จังหวัดภูเก็ต ของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลชนเผ่ามอแกลน มอแกน อูรักลาไว้ย ทั้ง 30 ชุมชนในจังหวัดพังและภูเก็ตกว่า 9,000 คนที่ใช้เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ดำรงประเพณี หากิน มาตั้งแต่ช่วง ปี 2230 เป็นเวลามากกว่า 300 ปี และยังไม่มีการดำเนินการแก้ใขปัญหาใดๆ ตั้งแต่ ปี 2554 พื้นที่นี้ได้ถูกกล่าวอ้างว่า เป็นเขตประกาศอุทยานฯสิรินาท ชาวเลก็มีการร่วมกับอุทยานฯและหน่วยงานทำกิจกรรมปลูกป่า การเข้าใช้พื้นที่ที่ต้องคำนึงถึงการอนุรักษ์เต่าทะเลวางไข่ จึงชาวเลเพียงทำมาหากินชั่วคราวและทำพิธีกรรมในช่วงตือนกุมภาพันธ์เป็นเวลา 3-5 วันของทุกปี หาดบริเวณนี้จึงเป็นหาดที่สงบ เหมาะที่เต่าทะเลจะขึ้นมาวางไข่ดังที่เป็นข่าวตลอดมา
ทั้งที่คนในประเทศยังไม่มีที่ดินทำกินกว่า 15 ล้านคน ขณะที่คนในจังหวัดภูเก็ตที่ยังอยู่อาศัยแบบไร้ที่ดินอาศัยจำนวนมาก ดังที่เป็นปัญหาที่ใด้เรียกร้องกับรัฐบาลที่ผ่านมา แต่กรธรนารักษ์กลับที่ดินให้บริษัทต่างชาติเช่าทำ
โรงแรมขนาดใหญ่ 504 ห้อง มีการปักเสาลวดหนามแสดงการครอบครองนั้น เพื่อเตรียมการก่อสร้างอาการของโรงแรม โดยอ้างพื้นที่นี้เป็น
เขตที่ดินราชพัสดุ นั้น
ดังนั้นจึงมายื่นหนังสือต่างจังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้เพื่อขอให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
เบื้องต้น นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้รับ หนังสือดังกล่าวไว้ ทั้งนี้จะได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลความถูกต้องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายต่อไป
สำหรับการยื่นหนังสือในวันนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต ได้เดินทางมารับหนังสือจากกลุ่มเครือข่ายด้วย เพื่อขับเคลื่อนและช่วยเหลือ ตามกระบวนการต่อไป
