จับกุมผู้ลับลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า และบุหรี่ต่างประเทศผิดกฎหมาย พร้อมอุปกรณ์ เสพ
ภายใต้การอำนวยการและสั่งการของ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผวจ.ภูเก็ต ,นายอนุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รอง ผวจ.ภูเก็ต ,นายสมปราชญ์ ปราบสงคราม ปลัดจังหวัดภูเก็ต นำโดย นายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอำเภอเมืองภูเก็ต นายวิเชฐ สูยะนันท์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นายดนัย ใจแข็ง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ตนำโดยพ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดีเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่หนีภาษี และสุรา จำนวน 2 คดี ดังต่อไปนี้
คดีที่ 1 ได้ร่วมกันจับกุม นายยศสิริ อายุ 24 ปี พร้อมด้วยของกลางบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 12 ตัว ได้ที่ริมถนนหน้าร้านขายของชำชื่อร้าน Dek cha Phuket บ้านเลขที่ 262/11 ถนนเยาวราช ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจํานํา หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียค่าภาษีหรือของต้องจํากัด หรือของต้องห้าม หรือที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องก็ดีหรือเป็นของที่นําเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ตาม พ.ร.บ.ศุลการ พ.ศ. 2560” ผู้ถูกจับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากการสอบถามได้ข้อมูลว่า เพิ่งซื่อบุหรี่ไฟฟ้ามาจากร้าน Dek cha Phuket ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ
คดีที่ 2 ได้ร่วมกันจับกุม จับกุมนายเทวัณ อายุ 20 ปี ผู้ถูกจับที่ 1 แลนายภานุวัฒน์ อายุ 23 ปี ผู้ถูกจับที่ 2 พร้อมด้วยของกลางรายการที่ เป็นบุหรี่ต่างประเทศไม่ติดอากรแสตมป์ไทย จำนวน 240 หมอน (2,400 ซอง 48,000 ตัว) ,บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 90 ตัว ,คอยบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 107 อัน ,หัวดูดบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 87 อัน ,น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 69 ขวด ,เหล้าต่างประเทศไม่ติดอากรแสตมป์ไทย รวมจำนวน 13 ขวด ,เงินสดจากการขายบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 2,000 บาท
ทั้งนี้ พฤติการณ์ในการตรวจค้น/จับกุม เนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากพลเมืองดีซึ่งเป็นผู้ปกครองนักเรียนว่าที่ร้านขายของชำชื่อร้าน Dek cha Phuket บ้านเลขที่ 262/11 ถนนเยาวราช ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต มีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเด็กนักเรียน จึงให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดำเนินการสืบสวนจับกุมด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบร้านดังกล่าวพบว่าเคยถูกผู้ปกครองนักเรียนได้ร้องเรียน ผวจ.ภูเก็ต มาแล้วก่อนหน้านี้ว่าขายบุหรี่ให้เด็กนักเรียน เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้หยุดขายไปช่วงหนึ่ง และต่อมาได้เปิดขายอีก เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำกาตรวจค้นจับกุม เมื่อสอบถามได้ให้ข้อมูลว่าได้รับค่าจ้างในการขายบุหรี่เดือนละ 10,000 บาท ต่อคน
โดยกล่าวหาว่า ร่วมกัน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจํานํา หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียค่าภาษีหรือของต้องจํากัด หรือของต้องห้าม หรือที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องก็ดีหรือเป็นของที่นําเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ตาม พ.ร.บ.ศุลการ พ.ศ. 2560” ,“ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” , “มียาสูบ ที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบไว้ในครอบครองเกินกว่าห้าร้อยกรัม” ,“ขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งยาเส้นหรือยาสูบที่มิได้ปิด แสตมป์ยาสูบ” และ “ขายหรือมีไว้เพื่อขาย สุราต่างประเทศหนีภาษี”
อย่างไรก็ตาม เจ้าพนักงานจึงเข้าทำการจับกุม และตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมด ผู้ถูกจับรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป