ฉาว! นักท่องเที่ยวชาวออสซี่ แจ้งความคนขับแท็กซี่จับขาลูกสาววัย 15 ปี ตร.เรียกตัวสอบแล้วยืนยันไม่ได้ทำ แต่เอานิ้วจิ้มหลังเด็กถาม “กางเกงหนูสวยไม๊” รอผู้เสียหายตอบกลับ จะแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่ ส่งเรื่องขนส่งพิจารณาความเหมาะสม
เพจดัง “ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part2 ออกมาโพสต์ข้อความพร้อม ภาพใบแจ้งความ ระบุ ว่า Taxi ภูเก็ตล่วงละเมิดจับขาสาวชาวออสสี่จริงหรือไม่..ขอให้ตำรวจเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนเอาตัวสอบให้ได้..ถ้าจริงเสียหายมากๆกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวมีการระบุว่า เมื่อ เวลา16.58 น.วันที่ 30 เม.ย.65 ร.ต.ท.ญาณภัทร มาลัย รอง สว.(สอบสวน)เชิงทะเล จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจาก Mr. Christopher . อายุ 44 ปี สัญชาติ ออสเตรเลีย ซึ่งพักอยู่ที่โรมแรมอริญชย์นารา (หาดบางเทา)หมู่ 2 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ได้แจ้งว่า เมื่อวันที่ 29 เม.ย.65 เวลา 12.10 น. (Miss Monika….)น.ส.โมนิก้า…. อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้แจ้ง ถูกคนขับรถแท็กซี่ ซึ่งจำแผ่นป้ายทะเบียนไม่ได้ ได้ใช้มือจับบริเวณต้นขาของ ลูกสาวผู้แจ้งภายในรถแท็กซี่ เหตุเกิดในบริเวณลานจอดรถห้างเซ็นทรัสเฟสติวัล ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ผู้แจ้งจึงมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ. เชิงทะเล เนื่องจากผู้แจ้งต้องเดินทางกลับประเทศออสเตรเลียในวันนี้ 30 เม.ย. 65 เวลา 18.30 น.
หลังทราบเรื่องทางพนักงานสอบสวนได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานเจ้าหน้าตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ตเข้าตรวจสอบ เพื่อสืบสวนหา ข้อเท็จจริงจากแท็กซี่คันดังกล่าวต่อไป
ล่าสุดจากการสอบถามไปยัง พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ทราบว่าขณะนี้รู้ตัว และ เชิญตัวคนขับแท็กซี่มาพบตำรวจและสอบปากคำแล้ว จากการสอบปากคำในเบื้องต้นยืนยันว่าไม่ได้ทำตามที่ถูกแจ้งความ และ ไม่ได้จับขานักท่องเที่ยวแต่อย่างใด เพียงแต่ใช้มือจิ้มไปที่กางเกง เนื่องจากเด็กได้ถาม ว่า “ กางเกงที่สวมอยู่สวยไม่” ส่วนเรื่องคดีนั้นขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประสานไปยังนักท่องเที่ยวผ่านทางกงสุล เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว หากต้องการแจ้งความดำเนินคดี ก็จะต้องมีการสอบปากคำผู้เสียหาย โดยขณะนี้ทางผู้เสียหาเดินทางกลับประเทศแล้ว ถ้ามีการสอบปากคำจะต้องมีสหวิชาชีพร่วมด้วย เนื่องจากผู้เสียหายเป็นเด็ก ซึ่งในส่วนนี้จะต้องรอทางกงสุลติดต่อกลับมาว่าทางผู้แจ้งและผู้เสียหายจะดำเนินการอย่างไร
ขณะที่ในส่วนขอนคนขับแท็กซี่นั้น ได้ส่งเรื่องไปให้ทางสำนักงานขนส่งพิจารณาแล้วว่าจะดำเนินการกับพฤติกรรมของคนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าว เพราะถ้ามองถึงเรื่องของความเหมาะคิดว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม