พบแล้วเรือ สร้อยสกุลเพชร หลังมีการแจ้งสูญหายกว่า 10 วัน ลูกเรือทุกคนปลอดภัย

พบแล้ว เรือสร้อยสกุลเพชร หลังมีการแจ้งสูญหายกว่า 10 วัน ลูกเรือทุกคนปลอดภัย

จากกรณีที่ภรรยาของเจ้าของเรือประมงแจ้งว่า นายรุ่ง คำลือวงศ์ ได้นำเรือเบ็ดราว ซึ่งเป็นเรื่อประมงพื้นบ้าน ขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 10 เมตร ชื่อเรือ สร้อยสกุลเพชร เดินทางออกจากท่าเรือแพองค์การสะพานปลาภูเก็ต เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 ที่ผ่านมาพร้อมลูกเรืออีก 4 คนเป็นชาวไทย 2 คน และชาวเมียนมา 6 คน เพื่อออกไปหาปลาทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต บริเวณแลต 6 องศา ห่างฝั่งประมาณ 120-130 ไมล์ทะเล คาดว่าเรือเครื่องยนต์ขัดข้อง และติดต่อไม่ได้ กระทั่ง ภรรยาของ นายรุ่ง ได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ เพื่อขอความช่วยเหลือให้ติดตาม เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งทัพเรือภาคที่ 3 และ ศรชล.ภาค 3 โดย พลเรือโทอาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และผู้อำนวยการ ศรชล.ภาค 3 ได้สั่งการให้ ศรชล.ภาค 3 กองเรือปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 หน่วยเรือ อากาศยาน หน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 และ 491 ร่วมกับเครือข่ายเรือประมงในพื้นที่ ออกคันหาและช่วยเหลือเรือสร้อยสกุลเพชรตลอดมา

ล่าสุด เจ้าหน้าที่พบเรือลำดังกล่าวแล้วพบเรือลำดังกล่าวแล้วทัพเรือภาคที่ 3 ใช้อากาศยานบินดูแลความปลอดภัยพร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลากเรือกลับเข้าฝั่งและนำส่งโรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ตและโรงพยาบาลวิชะภูเก็ตเพื่อดูอาการ

พลเรือตรี ภุชงค์ รอดนิกรกล่าวว่า เรือประมงในพื้นที่ตรวจพบว่า ได้ยินเสียงวิทยุติดต่อกลับจากเรือสร้อยสกุลเพชรว่าเรืออยู่ ณ พิกัดบริเวณ 40 ไมล์ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ตได้มรการจัดท่านผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 โดยพลเรือโทอาภากร อยู่คงแก้ว ในฐานะที่ท่านเป็น ผบ .ทัพเรือภาคที่ 3 และ ผอ. ศรพล ก็เลยสั่งให้เครื่องบินลาดตระเวนเข้าไปทําการตรวจสอบ เวลาประมาณสัก 10.00 น. ได้รับแจ้งแล้วว่าเป็นเป้าหมายเรือสร้อยสกุลเพชร เลยได้มีการจัดเฮลิคอปเตอร์ แล้วก็ชุดปฏิบัติการพิเศษเพื่อจะไป cover ในพื้นที่ ในขณะเดียวกัน ก็ได้ประสานงานกับเรือในพื้นที่จะเป็นเรือของ เอกชนเพราะว่าเรือของเขาความเร็วมากกว่า. โดยได้ดำเนินการขอเรือ อบจ.แล้วก็มีหน่วยงานของ มูลนิธิ เจ้าของเรือ. แล้วก็ในหน่วยงานของศรชลและภาคต่าง ๆ ออกไปทําการช่วยเหลือก่อน และได้ไปพบเรือสร้อยสกุลเพชร ในเวลาประมาณ 12.00 น.โดยคนบนเรือทุกคนปลอดภัย สภาพร่างกายของผู้ประสบภัยทั้ง 5 คน ยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงยังไม่เป็นอะไรมาก

จากการสอบถาม ทางคนบนเรือก็บอกว่า เรือของเขาเกียร์พัง แล้วก็เกิดการลอยเข้าไป พื้นที่ด้านล่างก่อนตอนหลังมันมีลมกระแสน้ำมันเลยตีขึ้นไปด้านเหนือ ครั้งแรกเขาได้รับการช่วยเหลือซ่อมเรือได้แล้วก็เดินทางใกล้จะถึงที่หมาย ประมาณสัก 40 ไมล์ทะเล ปรากฏว่าเกียร์เกิดการขัดข้องอีก ก็เลยต้องลอยไปในทะเลอีก ได้มีการทดลองติดต่อวิทยุปรากฏว่าเรือประมงที่ทําการประมงตรงนั้นได้ติดต่อพอดีเลยทำการติดต่อกัน แล้วก็แจ้งมาข้างบนฝั่ง ข้างบนฝั่งก็เลยประสานการปฏิบัติและทําการช่วยเหลือต่อไป ขณะนี้ลูกเรือทั้ง 5 คนได้ดำเนินการรักษาปฐมพยาบาลเรียบร้อยแล้ว

นายรุ้ง คำลือวงศ์ ผู้ประสบภัย เล่าว่า เรือเริ่มไหลออกนอกเส้นทางไป ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ในตอนนั่นเครื่องยนต์เกิดเสียเพราะสายเกียร์แตกน้ำมันไหลจนหมด ส่วนมากจะทําประมงแถวเกาะรายาเป็นเรือขนาดเล็กที่ออกแนวขอบร่อง ช่วงระยะเวลา 10 กว่าวัน ได้ใช้ชีวิตด้วยการหาปลาสดที่เก็บไว้หรือตกเบ็ดรับประทานปลาสด ๆ หรือปลาเค็มที่ทำเอง เพราะไฟที่ใช้ประกอบอาหารหมด ส่วนน้ำดื่มต้องแบ่งกัน คนล่ะนิด เพราะกลัวว่าน้ำจะหมด ในช่วงได้เห็นเรือใบของชาวฝรั่ง 3 คน เขาได้ให้น้ำมันเรือ 15 ลิตร แต่ทว่าเครื่องพังไม่สามารถที่จะใช้ได้ หลังจากนั่นหลายวันได้พบเรือประมงของชาวอินโด แต่เขาไม่กล้าเข้ามาเทียบเรือเพราะกลัวว่าจะเป็นโจร เลยตัดสินใจนั่งบนถังแกลลอนลอยน้ำไปขอความช่วยเหลือ เขาได้ให้ความช่วยเหลือโดยการให้ ข้าว น้ำ น้ำมัน ชาจต์แบตเตอรรี่เครื่องเรือให้และซ่อมสายเกียร์ให้พอปะทังให้เรือพอแล่นได้ จนเรือสตาร์ติดในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ แต่วันวันที่ 8 วิ่งมาได้สักระยะหนึ่ง สายเกียร์เรือก็ขาดน้ำมันแตกอีกครั้ง และได้ลอยลำจนมาถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ความรู้สึกตอนที่อยู่ในทะเล คิดถึงลูกและเมียอยากจะบอกว่า ให้เมียดูแลลูกให้ดีคิดว่าจะไม่รอดแล้วในตอนนั่น เหมือนตายไปแล้วได้เกิดใหม่อีกคร้ง ขอขอบคุณที่ได้เข้ามาช่วยเหลือนายรุ้ง กล่าว

Subscribe