ศุลกากรภูเก็ตร่วมกันท่าอากาศยานภูเก็ตรวบแหม่มมะกันขนยาไอซ์หนัก 4.3 กก.ซุกกระเป๋าเดินทางเตรียมบินไปสิงคโปร์
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผวจ.ภูเก็ตได้รับรายงานจากท่าอากาศยานภูเก็ต หลังจากด่านศุลกรกรท่าอากาศยานภูเก็ตร่วมกับ ป.ป.ส.-ตม.ทอ.ภูเก็ตและ สภ.สาคู ตลอดจนเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานภูเก็ตร่วมกันตรวจสอบและตรวจค้นกระเป๋าบุคคลต้องสงสัยที่ผ่านด่านตรวจผู้โดยสารระหว่างประเทศ หลังจากสืบทราบว่าอาจมีการลักลอบนำยาเสพติดออกนอกประเทศ จนกระทั่งเมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 23 ก.พ.68 ชุดจับกุมได้ตรวจค้นกระเป๋าเดินทางของ น.ส.เมลบา เจอรัลดีน ชาร์ป (MELBA GERALDINE SHARP) อายุ 64 ปี สัญชาติอเมริกัน ซึ่งเป็นผู้โดยสารสายการบินสกู๊ต (Scoot Airines) เที่ยวบินที่ TR 653 เดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตไปยังท่าอากาศยานนานาชาติชางงี สาธารณรัฐสิงคโปร์ และจะต่อเครื่องไปยังท่าอากาศยานนานาชาติเจจู ประเทศเกาหลีใต้ เที่ยวบินที่ TRA 12 จากการตรวจค้นพบ 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) ลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวขุ่นหุ้มด้วยพลาสติกใส กระดาษสีน้ำตาลและกระดาษคาร์บอนพันด้วยเทปสีน้ำตาลทับอีกชั้น จำนวนวน 4 ชิ้น น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 4,300 กรัมหรือ 4.3 กก.บรรจุจุอยู่ภายในชุดผ้าปูที่นอน โดยของกลางดังกล่าวบรรจุอยู่ภายในกระเป๋าเดินทางทรงอ่อนมีล้อลากสีดำ ยี่ห้อ BERMAS 2.ชุดผ้าปูที่นอน จำนวน 4 ชุด 3.กระเป๋าเดินทางทรงอ่อนมีล้อลากสีดำยี่ห้อ BERMAS จำนวน 1 ใบ 4.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ SAMSUNG สีน้ำเงิน รุ่น GALAXY จำนวน 1 เครื่อง ควบคุมตัวพร้อมของกลางไปขยายผลเพิ่มเติมที่ สภ.สาคู
ทั้งนี้ก่อนการจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าว แนวทางการสืบสวนพบว่าจะมีหญิงชาวต่างชาติลักลอบนำยาไอซ์เป็นจำนวนมากออกจากประเทศไทย โดยใช้ช่องทางผ่านท่าอากาศยานภูเก็ตไปยังท่าอากาศยานในต่างประเทศ โดยจะเดินทางมาในช่วงค่ำวันที่ 23 ก.พ.68 เจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องจึงมีการตรวจเข้มกระเป๋าเดินทางผ่านเครื่องสแกนกระเป๋า จนกระทั่งพบหญิงสาวชาวต่างชาติรูปพรรณตรงตามข้อมูล บริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ช่องขึ้นเครื่องที่ 81 จากนั้นได้นั่งรอขึ้น เจ้าหน้าที่จึงเข้าเชิญตัวไปยังห้องสอบสวนท่าอากาศยานภูเก็ต เนื่องจากพบสิ่งผิดปกติในกระเป๋าเดินทางของหญิงสาวชาวต่างชาติดังกล่าวที่โหลดใต้ท้องเครื่อง เพื่อเปิดกระเป๋าเดินทางต่อหน้าเจ้าของกระเป๋า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำวัตถุที่พบตรวจสอบด้วยน้ำยาเคมี ปรากฎว่าวัตถุดังกล่าวเป็นเมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์ ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 จึงแจ้งข้อหาพยายามนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์ออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สาคูเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ถ้ายาไอซ์จำนวนดังกล่าวสามารถเล็ดลอดออกจากประเทศไทยไปยังประเทศที่ 3 ได้จะมีมูลค่าหลายสิบล้านบาท