สืบภาค 8 นำกำลังรวบชาวเบลเยี่ยมปล่อยเงินกู้นอกระบบ

สืบภาค 8 นำกำลังรวบชาวเบลเยี่ยมปล่อยเงินกู้นอกระบบ ยึดรถ จยย.คนกู้ 13 คันไว้เป็นหลักทรัพย์-บัตร ปชช.อีก 15 ใบ

พ.ต.อ.เทพนม สุวรรณรัตน์ ผกก.กก.สส.3 บก.สส.ภ.8 รายงานการจับกุมชาวต่างชาติกระทำความผิดในราชอาณาจักรไทยเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ที่ผิดกฎหมายต่อ ผบช.ภ.8 หลังจากเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุริยา รัตนพันธ์ พ.ต.ต.สุรศักดิ์ พิพิธกุล สว.กก.สส.3 บก.สส.ภ.8 นำกำลัง กก.สส.3 บก.สส.ภ.8 จับกุมนาย PHILIPPE CAMILLE G.OLIVIER อายุ 63 ปี สัญชาติเบลเยี่ยมที่พักเลขที่ 63/25 ม.7 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ตในข้อหาตั้งโรงรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับในทางการค้าปกติโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดพร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ 13 คัน บัตรประจำตัวประชาชน(ลูกหนี้) 15 ใบควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลองเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้สืบเนื่อง กก.บก.สส.ภ.8 ได้รับคำสั่งจาก ผบช.ภ.8 ให้สืบสวนดิดตามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา กลุ่มเจ้าหนี้ที่มีพฤติการณ์ใช้ความรุนแรงในการทวงหนี้และการรับจำนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์โดยผิดกฎหมายตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและนโยบายของ สตช. ต่อมาได้รับแจ้งจากสายว่ามีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลได้กระทำความผิดอันมีลักษณะทำการปล่อยเงินกู้ให้ประชาชนทั่วไปกู้ยืมเงิน ซึ่งประชาชนที่สนใจจะกู้ยืมเงินได้โดยลักษณะให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดอันมีลักษณะเป็นการอำพรางให้กู้ยืมเงิน โดยผู้กู้ยืมเงินต้องนำทรัพย์สิน คือ รถจักรยานยนต์มาให้ผู้กระทำความผิดดังกล่าวยึดถือไว้ การปล่อยกู้ยืมเงินมีลักษณะการทำนิติกรรมสัญญาอำพราง เป็นผู้รับจำนำทรัพย์สิน (รถจักรยานยนต์) โดยไม่ใด้รับอนุญาตและเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดอันเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา มาตรา 4 และ พ.ร.บ.โรง
รับจำนำ พ.ศ.2505

จากนั้นได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเสนอต่อศาลจังหวัดภูเก็ตขออนุมัติหมายค้นเป้าหมาย ลงวันที่ 24 พ.ค.67 และในวันที่ 24 พ.ค.67 ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 63/25 ซอยแมงโก้ทีน ม.7 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต พบนายPHILIPPE CAMILLE G.OLIVIER อายุ 63 ปี สัญชาติเบลเยี่ยม ซึ่งสามารถพูดและฟังภาษาอังกฤษและภาษาไทยได้เข้าใจ โดยรับว่าเป็นผู้เช่าและเป็นผู้ครอบครองบ้านหลังดังกล่าว ชุดจับกุมจึงได้แสดงหมายค้นและเข้าตรวจค้นหาหลักฐานต่างๆ ซึ่งนาย PHILIPPE CAMILLE G. OUVIER เป็นผู้นำตรวจค้นด้วยตัวเอง พบของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อและรุ่นต่างๆ จำนวน 13 คัน พร้อมกุญแจรถ 11 ดอก บัตรประชาชนจำนวน 15 ใบ สอบถาม MR.PHILIPPE CAMILLE G.OUVIER เบื้องต้นให้การรับว่ารถจักรยานยนต์ทั้งหมดที่จอดอยู่ภายในบ้านและบริเวณหน้าบ้าน รวมไปถึงที่ว่างด้านข้างติดกับบ้านของตนนั้น ตนได้มาจากการที่ลูกหนี้มาขอกู้ยืมเงินและได้นำรถจักยานยนต์มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันไว้จริงและบัตรประชาชนเป็นของผู้กู้ยืมเงินที่ตนได้ยึดไว้เป็นหลักประกัน จากนั้นชุดจับกุมได้นำของกลางทั้งหมดและเชิญตัว MR.PHILIPPE CAMILLE G. OUVIER ไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ฉลอง

โดย นาย PHILIPPE CAMILLE G. OUVIER ให้การรับว่ารถจักรยานยนต์ทั้งหมดที่จอดอยู่ภายในบ้านและบริเวณหน้าบ้านและที่ว่างด้านข้างติดกับบ้านของตนนั้น ตนได้มาจากการที่ลูกหนี้มาขอกู้ยืมเงินและได้นำรถจักรยานยนต์มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันไว้ โดยส่วนใหญ่ลูกค้าจะนำรถจักรยานยนต์มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันไว้และขอกู้ยืมเงินคันละ 5,000-10,000 บาท โดยตนจะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 10-20 ต่อเดือนตามแต่จะตกลงกัน ซึ่งเป็นการคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยจะไม่มีการทำสัญญากู้ยืมเงินเป็นลายลักษณอักษร แต่ตนจะยึดบัตรประชาชนของผู้ขอกู้เอาไว้เป็นหลักประกัน ซึ่งเมื่อมีลูกค้าติดต่อมาขอกู้ยืมเงินตน ตนจะให้ลูกค้าถ่ายรูปรถจักรยานยนต์และส่งให้ตนมาทางแมสเซ็นเจอร์ของเฟชบุ๊ก เพื่อประเมินจำนวนเงินที่จะให้กู้ยืม และจะให้ลูกค้านำรถจักรยานยนต์มาที่บ้านของตน เพื่อตรวจสอบรถและพูดคุยตกลงเรื่องการกู้ยืมและการชำระดอกเบี้ยกับลูกค้า เมื่อตกลงกันได้แล้ว การชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยจะให้เป็นเงินสดหรือโอนตามแต่จะตกลงกัน

Subscribe