หนุ่มกราฟฟิกดีไซด์นามสกุลดังเข้ามอบตัวหลังใช้มีดแทงคนซื้อของห้างดังดับ อ้างคิดว่าคู่อริเก่า
ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ตนำ พ.ต.ท.นฤบดินทร์ ปังหลีเส็น รองผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ต.ทัพไท ลีลานนท์ สว.สภ.เมืองภูเก็ต นำตัว นายปัณ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี อาชีพกราฟฟิกดีไซด์ บ้านอยู่ ถ.เจ้าฟ้า ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงนายเจริญ แป้นเงิน อายุ 49 ปีและเสียชีวิตที่ รพ.ขณะกำลังเข็นรถบรรทุกสินค้าออกจากห้างโกรเซอรี่ ภูเก็ตมายังรถเอสยูวีฮอนด้าซีอาร์วี สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ขง 7773 ภูเก็ตที่จอดอยู่ริมถนนอ๋องซิมผ่าย ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองหน้าห้างดังกล่าวแล้วชิงสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทพร้อมพระเลี่ยมคอ 1 องค์และกระเป๋าสะพายอีก 1 ใบ แต่คนร้ายทำสร้อยคอทองคำและกระเป๋าสะพานตกอยู่ที่เกิดเหตุ ได้ไปเพียงพระเลี่ยมทอง 1 องค์ก่อนวิ่งหลบหนีเข้าไปในห้างเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและหลบหนีไป โดยชุดสืบสวนสามารถแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่ นายปัณ ใช้หลบหนี
เบื้องต้นนายปัณ ให้การรับสารภาพเป็นคนก่อเหตุทำร้ายนายเจริญจนเสียชีวิต แต่เป็นการเข้าใจผิดคิดว่าผู้ตายเป็นคู่อริเก่า แต่เมื่อลงมือไปแล้ว จึงสำนึกผิดและได้เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.สราวุธ ชูประสิทธิ์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ตที่ สภ.เมืองภูเก็ต จากนั้นชุดสืบสวนได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุและเส้นทางที่ใช้หลบหนี ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ตเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.สราวุธ กล่าวว่า หลังก่อเหตุ ผู้ต้องหาได้เข้ามามอบตัวพร้อมให้การสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ตนเองได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับชายไทยไม่ทราบชื่อสกุลจริง ( ชื่อเล่น ตานิด) ในเรื่องการขับรถแถวถนนขวาง ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยได้มีปากเสียงกันรุนแรง ตนได้มีความคับแค้นเป็นอย่างมาก ต่อมาก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนขี่รถ จยย.มาที่ตลาดเกษตร ถ.อ๋องซิมผ่าย ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 100 เมตร ตนได้สังเกตเห็นผู้ตาย หน้าตาคล้ายกับตานิด ตอนแรกตนเชื่อโดยสนิทใจว่าเป็นตานิด จึงได้ติดตามผู้ตายไป เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ตนจึงได้เข้าไป
สอบถามผู้ตายว่าใช่ ตานิดหรือไม่ ผู้ตายตอบปฏิเสธ ผู้ตายไม่ใช่ ไม่รู้จักคนชื่อตานิดแต่อย่างใด ทำให้ผู้ต้องหาเกิดความโกรธ และได้ใช้อาวุธมีดที่เตรียมมากระหน่ำแทงผู้ตายและได้หลบหนีไป โดยผู้ต้องหาระบุด้วยว่าไม่ได้เอาทรัพย์สินของผู้ตายไปแต่อย่างใด โดยเอาไปทิ้งไว้ด้านข้างห้างดังกล่าว เมื่อผู้ต้องหากลับถึงบ้าน เกิดสำนึกผิดและคิดว่าน่าจะเป็นการเข้าใจผิด จึงได้เดินทางมายัง สภ.เมืองภูเก็ตเพื่อมอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาตามกฎหมาย