หวั่นขยะภูเก็ตล้นเมือง เตาเผา-บ่อฝังกลบรับได้ไม่เกิน 1 ปี ยอดแตะพันตันต่อวัน
เทศบาลนครภูเก็ต เดินหน้าแก้ปัญหา ดึง SCG ช่วยเอาออกนอกเกาะ ของบจ้างรื้อร่อน เพิ่มพื้นที่ฝังกลบ จี้กระทรวงมหวดไทยเร่งต่อสัญญาบริหารจัดการเตาเผา
นายศุภโชค ละอองเพชร รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนจากสำนักพิมพ์ผู้จัดการรายวัน และผู้จัดการออนไลน์ ประเด็นระบบบริหารจัดการขยะมูลฝอยของศูนย์กำจัดมูลฝอยรวม เทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งขณะนี้มีปริมาณขยะจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ต ส่งเข้ามากำจัดมากถึงประมาณ 1,100 ตัน / วัน
โดยนายศุภโชค กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นเริ่มมีปัญหาขยะล้นเตาเผามาตั้งแต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากปริมาณขยะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพิ่มสูงขึ้น โดยปัญหาดังกล่าวได้สะสมต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าขณะนี้จะเป็นช่วงโลว์ซีซัน แต่พบว่าปริมาณขยะที่เกิดขึ้นในพื้นที่ไม่ได้ลดลง กลับมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
โดยมีปริมาณขยะที่จัดเก็บได้วันละ 1,000-1,100 ตัน ในขณะที่เตาเผาขยะของเทศบาลมีเพียง 1 เตา ซึ่งสามารถกำจัดขยะได้ 700 ตันต่อวัน ทำให้แต่ละวันมีขยะส่วนเกินอยู่ประมาณ 300-400 ตัน โดยขยะดังกล่าวจะต้องนำไปเข้าสู้ระบบฝังกลบ ปัจจุบันมีพื้นที่บ่อฝังกลบเหลืออยู่เพียง 1 บ่อเท่านั้น และ สามารถรองรับขยะได้อีกไม่เกิน 1 แสนตัน หรือไม่เกิน 1 ปี ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ ปัญหาขยะของภูเก็ตเข้าสู่วิกฤตอย่างแน่นอน และจังหวัดภูเก็ตอาจจะประสบกับปัญหาขยะล้นเมืองได้ ถ้าหากเกิดเหตุสุดวิสัย เตาเผาชำรุด หรือเสีย และพื้นที่ฝังกลบเต็ม
ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทางเทศบาลได้ของบประมาณยังส่วนกลางในการบริหารจัดการพื้นที่ฝังกลบขยะ ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ฝังกลบขยะของเทศบาลสามารถฝังกลบขยะได้ 8 แสนตัน แต่ปัจจุบันใช้พื้นที่ไปแล้วกว่า 7 แสนตัน ทำให้เหลือพื้นที่ฝังกลบไม่ถึง 1 แสนตัน ส่วนเตาเผาขยะที่ใช้อยู่ปัจจุบันจำนวน 1 เตา ปัจจุบันหมดสัญญากับทางเอกชนไปแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการขออนุญาตไปยังกรมการปกครองเพื่อต่อสัญญาเป็น 15 ปี โดยขณะนี้เป็นการต่อสัญญาระยะสั้น ทำให้เอกชนยังไม่กล้าที่จะลงทุนในการซ่อมใหญ่ทั้งระบบ ทั้งๆ ที่ครบระยะเวลาในการซ่อมและเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆ ไปแล้ว จึงอยากให้ทางกรมการปกครองเร่งในเรื่องของการต่อสัญญาระยะยาวให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด ก่อนที่เตาเผาจะชำรุดเพราะไม่ได้เปลี่ยนอุปกรณ์ และซ่อมบำรุง ทุกวันนี้ทำได้เพียงการซ่อมเฉพาะหน้าเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายขึ้น และบางช่วงอาจจะต้องหยุดเผาขยะกะทันหัน
นายศุภโชค กล่าวต่อไปว่า ทุกวันนี้การกำจัดขยะทำงานกันจนเกินขีดความสามารถของเครื่องจักรที่มีอยู่ ในการแก้ไขปัญหาเพื่อไม่ให้เตาเผาทำงานหนักเกินไป เทศบาลพยายามที่จะบริหารจัดการในส่วนของการฝังกลบให้ได้มากขึ้น แต่ด้วยปริมาณขยะที่เข้าไปมาก ประกอบกับเครื่องจักรมีน้อย ทำให้ไม่เพียงพอต่อการกำจัดขยะที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น เดิมมีขยะที่เข้าไปบ่อฝังกลบเพียงวันละประมาณ 100 ตัน แต่ปัจจุบัน พบว่าปริมาณขยะที่เข้าไปสู่บ่อฝังกลบมีเพิ่มมากขึ้นเป็น 300-400 ตันต่อวัน และบางวันมีมากถึง 700 ตัน เนื่องจากเตาเผาต้องหยุดทำงานบางช่วง จึงทำให้เกิดปัญหาขยะล้นเตาเผา อย่างไรก็ตาม ระบบการฝังกลบขยะที่มีอยู่ในปัจจุบันสามารถรองรับปริมาณขยะได้อีก 1 ปีเท่านั้น จึงจำเป็นต้องเร่งแก้ปัญหาเร่งด่วน
ส่วนเตาเผาหัวที่ 2 ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง สามารถใช้งานได้ประมาณปี 2570 มีขีดความสามารถในการกำจัดขยะได้ประมาณ 500 ตัน ถ้าสร้างเสร็จจะทำให้มีเตาเผาขยะ 2 เตา ภูเก็ตจะมีศักยภาพในการกำจัดขยะได้ถึง 1,200 ตันต่อวัน แต่ความสามารถดังกล่าวจะต้องรออีก 3 ปี ดังนั้นในช่วงปี 3 ปี คือ 2567-2570 ภูเก็ตยังต้องเผชิญกับปริมาณขยะที่เกินขีดความสามารถของเตาเผา และบ่อฝังกลบที่มีอยู่ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาขยะล้นได้ตลอดเวลา เพราะยังไม่รู้ว่าปริมาณขยะจะเพิ่มขึ้นอีกมากน้อยแค่ไหนในแต่ละวัน
นายศุภโชค กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามในส่วนของทางเทศบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในการที่จะแก้ปัญหา โดยขณะนี้ได้มีการเซ็น MOU กับทางบริษัท SCG ในการนำขยะออกจากบ่อฝังกลบฟรี เพื่อนำไปทำเชื้อเพลิง ซึ่งในการดำเนินการนั้นทาง SCG จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการรื้อขยะจากบ่อฝังกลบ การนำขยะมาบีบอัดเป็นแท่ง และการขนส่ง โดยจะเอาขยะออกจากบ่อฝังกลบจำนวน 1 แสนตัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเริ่มได้ประมาณกลางเดือน ก.ย.นี้
นอกจากนั้น ทางเทศบาลยังได้เสนอของบประมาณไปยังส่วนกลางจำนวน 35 ล้านบาท และเทศบาลสมทบจำนวน 5 ล้านบาท ในการว่าจ้างบริษัทเอกชนรื้อร่อนขยะในบ่อฝังกลบ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการประกาศจัดซื้อจัดจ้าง ถ้าได้บริษัทเข้ามาดำเนินการจะสามารถเอาขยะออกจากบ่อฝังกลบได้อีกจำนวนมาก นอกจากนั้นยังได้ยื่นขอในปีต่อๆ ไปอีกเพื่อให้การดำเนินการทำได้ต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้การกำจัดขยะของจังหวัดทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งทุกวันนี้ทางเทศบาลต้องมารับภาพในการกำจัดขยะจากทั่วทั้งจังหวัด ถ้าหากเตาเผาหรือบ่อฝังกลบขยะไม่สามารถดำเนินการได้ หรือปิดซ่อมเตาเผาขยะ แค่ 4 -5 วัน เชื่อว่าจังหวัดภูเก็ตจะได้รับผลกระทบจากขยะล้นเมืองอย่างแน่นอน เพราะไม่รู้จะเอาขยะที่เกิดขึ้นวันละกว่า 1,000 ตัน ไปไว้ที่ไหน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยด่วนที่สุด
ส่วนการแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน และโรงเรียนที่อยู่ใกล้บ่อฝังกลบนั้นทางเทศบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหา และหามาตรการป้องกัน ซึ่งปัจจุบันในส่วนของบ่อฝังกลบที่อยู่ใกล้ชุมชนไม่ได้ใช้งาน เพื่อลดผลกระทบต่อชุมชน แต่ต้องยอมรับว่าขณะนี้ปริมาณขยะที่เข้ามามีมากจริงๆ ถ้าทางรัฐมนตรีลงนามต่อสัญญากับเอกชนในส่วนของเตาเผาขยะเป็น 15 ปี ทางเอกชนสามารถนำงบประมาณมาปรับปรุงเตาเผาให้อยู่ในสภาพที่ดี เพื่อให้เตาเผาทำงานได้เต็มที่ ขยะที่เหลือเข้าบ่อฝังกลบจะน้อยลง
“นอกจากนั้นที่ผ่านมา จังหวัดได้เรียกประชุมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในการลดปริมาณขยะ โดยเฉพาะการคัดแยกขยะอินทรีย์ออกก่อนที่จะนำขยะเข้าสู่ระบบอย่างน้อย 20-30% จะทำให้ปริมาณที่เข้าสู่เตาเผาและบ่อฝังกลบน้อยลง หรือหายไปประมาณ 200-300 ตันต่อวัน ซึ่งจะทำให้การทำงานของเทศบาลมีความคล่องตัวมากขึ้น เตาเผาไม่ต้องทำงานหนักมากเกินไป ทุกวันนี้เตาเผาต้องทำงาน 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว” นายศุภโชค กล่าวในที่สุด