ออกหมายจับแล้วชายชาวเมียนมาร์ก่อเหตุชิงทองกลางเมืองภูเก็ต

ออกหมายจับแล้วชายชาวเมียนมาร์ที่ก่อเหตุชิงทองกลางเมืองภูเก็ต เบื้องต้นสารภาพก่อเหตุจริง ด้านเจ้าของร้านขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมคนร้ายได้

จากกรณีคนร้ายเจาะฝ้าเพดานโรยตัวเข้าไปก่อเหตุชิงทองรูปพรรณน้ำหนักรวมกว่า 300 บาท พร้อมเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท และทำร้ายพี่สาวและญาติเจ้าของร้านทองทวีชัย ตั้งอยู่บริเวณถนนระนอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และตรวจสอบบริเวณโดยรอบที่คาดว่า คนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางเข้า-ออก ก่อนและหลังเกิดเหตุ ตลอดจนตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านและตามเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่า คนร้ายจะใช้เข้าออกและหลบหนี ตลอดจนสอบปากคำพยานบุคคล ทั้งผู้บาดเจ็บ เจ้าของร้านทองและพนักงานขาย จนกระทั่งสามารถแกะรอยจนพบผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวเมียนมา 1 คน ซึ่งคาดว่า จะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว และได้นำตัวไปสอบปากคำที่ตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้เกิดความชัดเจนสำหรับความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อความถูกต้องชัดเจน เดินทางไปยังศาลจังหวัดภูเก็ต เพื่อเสนอต่อศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา คือ นายชาย ออง อายุ 26 ปี ในข้อหา ชิงทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และข้อหาอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังจากมีการนำตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบปาก เบื้องต้นยอมรับว่า นายชาย ออง ให้การรับสารภาพว่า ตนทำงานเป็นคนสวนอยู่บ้านของตระกูลดัง ถ.วิชิตสงคราม และเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยก่อนเกิดเหตุช่วงเย็นของวันที่ 23 ต.ค.64 ได้ไปดูลาดเหลาก่อน จากนั้นช่วงกลางคืนได้เข้าไปก่อเหตุ โดยได้ทองรูปพรรณจำนวนมากและเอาไปเก็บซุกซ่อนไว้ในห้องพักคนงานที่ตนทำงานอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ฯจึงได้ตรวจยึดทองไปตรวจสอบ และยังมีเงินสดจำนวนหนึ่ง โดยเงินสดที่ได้มามีการนำไปใช้จ่ายแล้วบางส่วน

นอกจากนั้นทราบว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ฯได้มีการตรวจสอบ ทองรูปพรรณที่ถูกขโมยมา ปรากฏว่า ทองยังอยู่ครบประมาณ 350 บาท แต่เงินสดอยู่ไม่ครบด้าน นางเบญจพร วัชรัตน์ศีรียุทธ เจ้าของร้านทองทวีชัย กล่าวว่า ทางตำรวจแจ้งข่าวผ่านไทม์ไลน์ว่า จับตัวคนร้ายได้แล้ว แต่ขอให้ทางร้านใจเย็นๆ รอการทำสำนวนและเอกสารอะไรให้รัดกุมก่อน แล้วจะมีการแถลงข่าวเร็วๆนี้ และตนในฐานะที่เป็นเจ้าของสถานประกอบการและเป็นผู้เสียหายรู้สึกขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยงานที่ได้มีการประสานงานและร่วมมือกัน โดยใช้สื่อโซเซียลในการติดต่อประสานงานทุกหน่วย แม้กระทั่งการให้ข้อมูลของพนักงานและเพื่อนบ้านทุกคนช่วยกัน เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีข้อมูลมากขึ้น จนสามารถติดตามคนร้ายได้โดยเร็ว และขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ดีในยามที่เราตกทุกข์ เพราะเราประกอบธุรกิจมาตั้ง 30 กว่าปี การที่ผู้ร้ายมากวาดทรัพย์เราไปอย่างนี้ เราก็เสียดายและมันไม่เคยมีมาก่อน ทางร้านเลยไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยด้านหลัง เนื่องจากเรามองแต่ด้านหน้าร้าน แต่ต่อไปคิดว่าจะต้องปรับปรุงด้านหลัง และจะต้องมีการดูแลในด้านความปลอดภัยให้ครอบคลุมในทุกๆด้าน และต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็วอย่างไรก็ตาม ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีภาพจากกล้องวงจรปิดที่มีการติดตั้งอยู่หน้าร้านค้าใกล้เคียงกับร้านทองทวีชัย ถ.ระนอง ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง ซึ่งในกล้องพบชายต้องสงสัยใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ สวมแมสสีดำ ใส่รองเท้าแตะขี่รถ จยย.ไม่ทราบสี ยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนมาจอดบริเวณปากซอยทางเข้าตลาดสดเทศบาล ถ.ระนองแล้วเดินออกมายืนมองมาทางร้านทองทวีชัยแล้วเดินกลับไปขึ้นรถแล้วขี่ออกไป โดยเวลาในกล้องระบุไว้ที่ 18.38 น.วันที่ 23 ต.ค.64 ก่อนเกิดเหตุราว 3-4 ชม.คาดว่าคนร้ายอาจมาดูลาดเลาก่อนลงมือ