เลขาธิการ สทนช. ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและการเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
ที่ ห้องประชุมมุกอันดา มุกหน้าชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมทางไกลร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายโสภณ ทองไสย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต นายเกริกศักดิ์ ลีนานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานภูเก็ต นายวีระ สม่าหลี รักษาราชการแทนผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันตก ผู้แทนจากหน่วยงานในสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ในจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เข้าร่วม
ดร. สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กล่าวว่า จากลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ยังจุดเสี่ยงดินถล่มและอ่างเก็บน้ำในจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อประกอบการประชุมตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์สภาพอากาศ พบว่าอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับพายุโซนร้อน “จ่ามี” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ในช่วงระหว่างวันที่ 27-28 ตุลาคม 2567 จะทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ของภาคใต้ฝั่งตะวันออกและฝนตกหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก
ทั้งนี้ จากการรับรายงานของหน่วยต่างๆในพื้นที่ ซึ่งมีความพร้อมตามแนวทางและแผนปฏิบัติการ พร้อมดำเนินการแจ้งเตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงและการเผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทันท่วงที เพื่อให้การดำเนินการทุกด้านเกิดความคล่องตัวและอำนวยความสะดวกดูแลประชาชนได้อย่างสูงสุด
อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่ตำบลกะรน ถือเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ซึ่งอยู่ในระหว่างการวางแผนเสนอของบประมาณในการแก้ปัญหาในพื้นที่โดยกรมทรัพยากรธรณี โดยข้อมูลพบว่าเป็นพื้นที่ที่มีความเฉพาะมากกว่าพื้นที่อื่น เนื่องจากเป็นพื้นที่เชิงเขาและเป็นทางน้ำระยะสั้น ๆ และพื้นที่ด้านล่างเป็นชุมชนจำนวนมาก จึงเป็นเรื่องของความท้าทายในการเข้ามาดำเนินการ ส่วนกรณีพื้นที่ที่มีความเสี่ยงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการประชาสัมพันธ์เส้นทางและข้อมูลต่างๆให้ประชาชนรับทราบ เพื่อหลีกเลี่ยงในช่วงที่มีความเสี่ยงและช่วงที่เกิดเหตุเพื่อความปลอดภัย