กรอ.ภูเก็ตติดตามเร่งรัดโครงการเมกะโปรเจกต์ด้านคมนาคม หวั่นสร้างเสร็จไม่ทันงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษ ในปี 2571

ที่ ประชุมร่วมภาครัฐ-เอกชนภูเก็ต ติดตามความคืบหน้าโครงการด้านคมนาคมขนาดใหญ่ในภูเก็ต ทั้ง รถไฟฟ้ารางเบา อุโมงค์ป่าตอง ถนนสายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ เกรงสร้างเสร็จไม่ทันงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษ ในปี 2571 อาจกระทบการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน

นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 8/2565 โดยมีหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนเข้าร่วม ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต และมีการประชุมผ่านระบบ ZOOM กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนกลางอีกด้วย

โดยที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าโครงการคมนาคมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทั้งที่เป็นโครงการของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย และกรมทางหลวง ที่กำลังดำเนินการอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตหลายโครงการด้วยกัน

โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 หรือโครงการรถไฟฟ้ารางเบา (ช่วงท่าอากาศยานภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง) ซึ่งทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ชี้แจงรายละเอียดว่า ขณะนี้โครงการอยู่ในขั้นตอนการศึกษาทบทวนรายละเอียดความเหมาะสม ปรับปรุงแบบ ซึ่งตามแผนงานจะแล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.2566 หลัง รฟม.ได้ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ภูเก็ต เรื่องราคาค่าโดยสาร และส่วนต่อขยายไปยังบ้านท่าฉัตรไชย เพื่อรองรับการจัดงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษที่ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดที่จังหวัดภูเก็ต

ตามแผนงานที่กำหนด จะมีการนำเสนอตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯ พ.ศ.2562 ภายในเดือน พ.ค.-เม.ย.2567 คัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน ในเดือน พ.ค.2567-มิ.ย.2568 ก่อสร้างงานโยธา ผลิตและติดตั้งระบบรถไฟฟ้าและงานเดินรถ ในเดือน ก.ค.2568-พ.ย.2570 และเปิดให้บริการภายในเดือน ธ.ค.2570 เพื่อให้ทันกับการจัดงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษหากประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพ

โครงการทางพิเศษทางพิเศษกะทู้-ป่าตอง หรือโครงการอุโมงค์ป่าตอง ที่ทางการพิเศษได้รายงานว่า ขณะนี้อยู่ในกระบวนการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน และตามแผนงานจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2570 เช่นเดียวกับโครงการถนนสายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ ที่จะเป็นมอเตอร์เวย์ระยะทาง 30 กิโลเมตร ไปเชื่อมต่อกับอุโมงค์ป่าตอง ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาออกแบบรายละเอียดและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างทางเลือกในการเดินทางที่นอกเหนือจากถนนเทพกระษัตรีที่เป็นถนนสายหลัก เป็นอีกหนึ่งโครงการที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะเร่งให้ก่อสร้างเสร็จก่อนปี 2571 เพื่อรองรับเอ็กซ์โปวาระพิเศษเช่นกัน

โครงการก่อสร้างเพิ่มช่องทางจราจร ทางหลวงหมายเลข 4027 ตอนบ้านพารา-บ้านเมืองใหม่ ซึ่งเป็นโครงการของกรมทางหลวง ขณะนี้ได้ศึกษาออกแบบรายละเอียดโครงการแล้วเสร็จ อยู่ในขั้นตอนการนำเสนอผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อ สผ. เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวต้องตัดผ่านพื้นที่ป่า

และโครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับ ที่จุดตัดแยกท่าเรือ (อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร) เพื่อปัญหาการจราจรติดขัดในบริเวณแยกท่าเรือ ทางกรมทางหลวงได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาออกแบบรายละเอียดโครงการและมารับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ภูเก็ตไปแล้ว 1 ครั้ง

โดยรูปแบบโครงการเป็นทางลอดขนาด 3 ช่องจราจร ลอดใต้อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ในแนวทางหลวงหมายเลข 402 ทิศทางออกนอกเมืองจะมี 2 ช่องจราจร และทิศทางเข้าเมืองจะมี 1 ช่องจราจร ส่วนด้านบนจะมีทางขนานฝั่งละ 2 ช่องจราจร และด้านบนทางลอดคงรูปแบบวงเวียนขนาด 2 ช่องจราจร วนรอบอนุสาวรีย์ พร้อมออกแบบระบบสัญญาณไฟจราจรบริเวณทางแยกเพื่อความปลอดภัย รวมไปถึงการยกฐานอนุวารีย์ให้สูงขึ้น และมีการออกแบบให้สามารถเข้าถึงอนุสาวรีย์ได้สะดวกมากขึ้นด้วย

ตามแผนงานที่วางไว้จะมีการขอบรรจุงบประมาณในปี 2567 ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปีเศษ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2570

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้แสดงความเป็นห่วงและกังวลว่าโครงการขนาดใหญ่ที่เป็นโครงข่ายด้านคมนาคมในภูเก็ต ที่ยังอยู่ในการขั้นตอนการศึกษาออกแบบรายละเอียด การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการร่วมลงทุนกับเอกชน จะเสร็จไม่ทันการจัดงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษ หากภูเก็ตได้รับการคัดเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงาน และโครงการต่างๆ ตามแผนงานจะก่อสร้างและเปิดใช้ในช่วงปลายปี 2570 หากเกิดสะดุดในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งจะทำให้โครงการเสร็จไม่ทันตามที่วางแผนไว้ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการจัดงานได้

Subscribe