ขนส่งภูเก็ตลงพื้นที่ตรวจสอบคิวแท็กซี่หน้าห้างดังแถวตำบลวิชิต

ขนส่งภูเก็ตลงพื้นที่ตรวจสอบคิวแท็กซี่หน้าห้างดังแถวตำบลวิชิต กำชับให้ปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด

จากกรณีที่มีสื่อโซเซียลเผยแพร่คลิปการโต้เถียงระหว่างระหว่างคนขับแท็กซี่ผู้ชายคิวหน้าห้างดังแถวตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ตกับผู้หญิงที่ขับแท็กซี่ป้ายดำที่มีการเรียกผ่านแอพพลิเคชั่นหนึ่งจนมีการโต้เถียงและมีการเผยแพร่ตามที่เป็นข่าว ล่าสุดในวันนี้ทางขนส่งจังหวัดพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต ได้มีการลงพื้นที่เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับ นายสมพร (ขอสงวนนามสกุล)พร้อมได้มีการตรวจสอบและเตรียมเรียกตัวทั้ง 2 รายมาสอบสวนหากพบว่ามีการกระทำความผิดก็จะดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

หลังจากนั้นในช่วงบ่ายวันนี้(28 มี.ค.66) ทาง นายอัคชา บัวจันทร์ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ขนส่งได้มีการลงพื้นที่อีกครั้งหลังมีการตัดต่อแอพพลิเคชั่นภาพหน้านายสมพรและมีการใช้คำที่ไม่เหมาะสมผ่านโซเซียลโดยทางเจ้าหน้าที่ได้ให้นายสมพรไปลงบันทึกประจำวันกับทางตำรวจ สภ.วิชิต เพื่อเป็นหลักฐานโดยทางนายสมพรยืนยันว่ามีการเอารูปตนไปตัดต่ออย่างแน่นอนตนได้รับความเสียหายจึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน

นายอัคชา กล่าวว่า ในเรื่องของมาตรการการป้องกันการทะเลาะเบาะแว้งกันของคนขับรถสาธารณะกับรถแอปพลิเคชันรวมถึงรถยนต์รับจ้างที่ผิดกฎหมายรถป้ายดํา ในส่วนของสํานักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ก็ได้มีมาตรการในการดําเนินการเพื่อป้องกันปัญหาในเรื่องนี้ เรื่องแรกก็คือเราได้จัดทำการตรวจสอบรถที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ดําเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง อันที่สองก็คือ เรารับเรื่องร้องเรียนทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นทาง facebook ของสํานักงาน ทางไลน์ หรือว่าทางช่องทางอื่นๆ แล้วก็มาพิจารณาตรวจสอบ ก็จะได้มีการตามกฎหมายกับผู้ที่กระทําผิด ในส่วนของเรื่องของแอปพลิเคชัน ในส่วนนี้เพื่อป้องกันปัญหาการทะเลาะเบาะแว้ง เราก็ได้มีการจัดทําสติกเกอร์ เพื่อที่จะติดข้างรถซึ่งอันนี้ก็ขอความร่วมมือ ผู้ที่ได้จดทะเบียนเป็นรถแอพพลิเคชันแล้วให้มาติดสติกเกอร์เพื่อที่จะป้องกันในเรื่องปัญหาสําหรับผู้ที่ขับรถว่าเป็นรถที่ได้รับการจดทะเบียนถูกต้อง ก็สามารถที่จะประกอบอาชีพได้ ซึ่งในส่วนนี้เราก็ อยู่ระหว่างการ ดําเนินการถ้าข้อมูลที่เราดําเนินการอยู่ ก็มีทั้งเรื่องที่เราได้ทําหนังสือเรียกตัวมาก็รวมอยู่แล้วประมาณร้อยกว่ารายในส่วนที่ได้มีการปรับเปรียบเทียบปรับแล้วก็พักใช้ใบอนุญาตขับรถไปแล้วประมาณยี่สิบกว่ารายทางขนส่งก็จะร่วมกับเจ้าหน้าที่ตํารวจในทุกพื้นที่ ที่จะช่วยกันเฝ้าระวัง ในพื้นที่ที่มีการนํารถผิดกฎหมายมาใช้ในการที่จะมารับจ้างคนผู้โดยสารซึ่งปกติเราก็ดําเนินการอยู่แล้ว แล้วก็จะดําเนินการอย่างต่อเนื่อง

นายอัคชา กล่าวต่อไปว่า อยากจะฝากผู้ที่จะมาดําเนินการในเรื่องของการวิ่งรถเพื่อรับส่งผู้โดยสารก็ขอให้เป็นรถที่จดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนผู้ที่จดทะเบียนรถถูกต้องตามกฎหมายและประกอบอาชีพอยู่แล้วก็ให้ใช้ความระมัดระวัง ในเรื่องของการที่จะไปตรวจสอบดําเนินการ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ เราก็มีช่องทางที่จะรับเรื่องร้องเรียน แล้วก็ดําเนินการให้กับท่านอยู่แล้วแต่ในบางเรื่องเราอาจจะต้องใช้เวลาในเรื่องของการดําเนินการ

นายสมพร กล่าวว่า ก็ว่าไปตามคลิปเลยตอนนี้ก็กำชับลูกคิวว่าถ่ายรูปได้อย่างเดียวอย่าเข้าไปใกล้รถมากเกินไปเดี๋ยวจะมีปัญหากระทบกระทั่ง เพราะว่าเดี๋ยวนี้แอปพลิเคชัน เขาก็มีการ ยั่วยวนให้เรามาทะเลาะวิวาท ให้เกิดมีปากเสียงใช้กําลังรุนแรง พอได้ไปลงโซเชียลไว้ให้เป็นข่าวใหญ่โต เราแท็กซี่ก็ลําบากหน่อย ถึงตอนนี้ถ้าว่าเราไม่ช่วยใครจะมาช่วยผู้หลักผู้ใหญ่ก็มาจัดการตั้งแต่ในช่วงนี้ก็ ทางตํารวจทางผู้กํากับก็มาจัดการทางหัวหน้าส่วน เข้ามาจัดการให้ก็โอเคได้ระดับหนึ่ง

คือว่าทุกคนมีสิทธิ์ทํางานได้ขอให้ทําให้ถูกต้องตามกฎหมายที่กําหนดไว้เท่านั้น ทุกคนวิ่งได้หมด. เราไม่ได้บังคับว่า นาย ก นาย ข ห้ามมาวิ่ง มาวิ่งได้หมด แต่ว่ารถต้องถูกกฎหมาย ทําตามกฎระเบียบของขนส่งที่เขาวางไว้แค่นั้นก็พอ เรื่องอื่นเราไม่ได้ไปบังคับว่า พี่มารับคิวผมไม่ได้ ไปรับคิวนู้นไม่ได้ มันไม่ใช่ ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันหมด ไม่ใช่แท็กซี่ป้ายดํา มาเที่ยวโจมตีแท็กซี่ป้ายเขียว มาโจมตีวินมอเตอร์ไซค์ห้ามมารับทุกคนมีสิทธิ์มารับได้หมด แต่ว่ามารับได้รถถูกต้องไม่ใช่รถกระบะสี่ประตูเข้ามารับ อย่างนี้มันก็น่าเกลียดเกินไป ของเซ็นทรัลตรงนี้ที่เปิดโอกาสให้ใครก็ได้ที่ถูกกฎหมาย แล้วก็เข้ามารับได้ รถป้ายดําแต่ว่าทำทะเบียนถูกต้องของอิเล็กทรอนิกส์ถูกต้อง ก็มารับได้ ผมไม่ได้ว่าคนมารับแอพอะไรก็ได้

พ.ต.อ. ชาตรี ชูแก้ว ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวิชิต กล่าวว่า กรณีที่มีผู้หญิงไลฟ์สดออกมา มีผู้ชายเคาะกระจกรถ แล้วก็มีการโต้เถียงกัน วันนี้ก็ได้เรียกทางผู้ชายในภาพมาพูดคุยแล้วปรากฏว่าเขาเข้าใจว่ารถคันนี้เป็นแท็กซี่ป้ายดำ ซึ่งใช้แอพพลิเคชันที่ยังไม่ได้รับอนุญาต ก็ได้ตรวจสอบฝ่ายสืบสวนก็ได้ไล่กล้องจนพบผู้ขับขี่ในเบื้องต้นได้ให้การรับสารภาพว่าได้ใช้แอพพลิเคชัน indriver ซึ่งไม่ได้รับอนุญาต ทางเข้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวมาเปรียบเทียบปรับเป็นการใช้รถผิดประเภท และจะเรียกมาสอบปากคำทั้งผู้หญิงแล้วก็ผู้ชายว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นยังไงกระทำความผิดส่วนไหน ส่วนในกรณีที่ปรากฏว่า ที่ส่งต่อมาในไลน์เป็นรูปภาพที่เป็นภาพของพี่สมพร แสดงตัวเป็นแท็กซี่ทางพี่สมพรวันนี้ก็ได้มาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่อยืนยันว่าไม่ใช่คนโพสต์แล้วก็ไม่ได้ใช้แอพพลิเคชันในราคาที่เกิดจริง ทางพี่สมพรก็ได้บอกว่าไม่ได้เป็นคนโพสต์แล้วก็ไม่ได้ใช่แอพพลิเคชันนี้ก็เลยให้พนักงานสอบสวนลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว ถ้าตรวจพลเจอว่าใครเป็นคนแอบอ้างจะเรียกตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

Subscribe