ชายหาดต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต เริ่มปักธงแดง เตือนนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำ

ชายหาดต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต เริ่มปักธงแดง เตือนนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำ เพื่อความปลอดภัย หลังกรมอุตุนิยมวิทยา เตือนคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน ขณะที่ เตือนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 30 พ.ค.นี้

บรรยากาศตามชายหาดต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ละพื้นที่ได้ออกมาคอยเฝ้าระวังและสอดส่องดูแล พร้อมทั้งแจ้งเตือนนักท่องเที่ยว ไม่ให้ลงเล่นน้ำทะเล เนื่องจากขณะนี้มีคลื่นลมแรง ยังชายหาดแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเล่นน้ำอย่าง หาดป่าตอง หาดสุรินทร์ หาดในหาน หาดกะตะ กะรน โดยเจ้าหน้าที่ได้ปักธงแดง ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำอย่างเด็นขาด นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด ร่วมกับผู้ประกอบการชายหาด คอยสอดส่องและดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ ในช่วงคลื่นลมสงบ
ทั้งนี้ บรรยากาศทั่วไปไม่พบนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ มีเพียงไลฟ์การ์ดที่อยู่ตามจุดต่างๆ คอยเฝ้าสังเกตการณ์เท่านั้น ซึ่งตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ท้องฟ้าค่อนข้างมืดครึ้มจากเมฆฝน และมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าออกมาทำกิจกรรมยังชายหาด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด ได้เน้นย้ำขอให้นักท่องเที่ยวเชื่อฟังคำสั่งของเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด เนื่องจากขณะนี้เข้าสู่ฤดูฝนหรือช่วงแรกของฤดูมรสุม จึงเน้นย้ำให้สังเกต ‘ธงสีแดง’ ที่ปักอยู่บริเวณชายหาด ซึ่งเป็นจุดที่อันตรายมากเพราะมีน้ำทะเลเชี่ยวกรากและเป็นกระแสน้ำวน ซึ่งยากต่อการว่ายน้ำกลับเข้าฝั่ง โดยเฉพาะผู้ที่ตกใจแล้วว่ายน้ำทวนกระแสคลื่นจะก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ หากเป็น ‘ธงสีเหลือง-แดง’ เป็นจุดที่สามารถลงเล่นน้ำทะเลได้ และมีเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดคอยดูแลความปลอดภัย
ทั้งนี้ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันตก ได้ออกประกาศเตือนคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรง ทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีกำลังแรง โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทย ตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง โดยเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 30 พ.ค.65 จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา หรือ สายด่วน 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง

Subscribe