ญาติผู้เสียชีวิตที่โดนแทงหน้าห้างดังคาใจเข้าพบตำรวจเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ด้าน ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ยันผู้ก่อเหตุเป็นตัวจริงและพร้อมให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ พร้อมนำตัวส่งฝากขังศาลจังหวัดภูเก็ต และคัดค้านการประกันตัว
ความคืบหน้ากรณี นายปัณ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี อาชีพกราฟฟิคดีไซด์ ใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงนายเจริญ แป้นเงิน อายุ 49 ปี พ่อค้าข้าวแกงในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เหตุเกิดหน้าห้างดังกลางเมืองภูเก็ต บริเวณถนนอ๋องซิมผ่าย ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมาเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว ขณะที่ผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวหลังสำนึกได้ และคิดว่าเป็นการลงมือผิดตัว จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุรับสารภพว่า เป็นผู้ลงมือจริง เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าผู้เสียชีวิตเป็นคู่อริที่เคยมีเรื่องกันมาก่อน เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด ที่ สภ.เมืองภูเก็ต นางดารณี แป้นเงิน อายุ 48 ภรรยาของนายเจริญ ฯ ผู้เสียชีวิตพร้อมด้วยนายภราดร ตั้งวินิต ทนายความ เข้าพบ พ.ต.ท.สากล ไกรนราพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าของคดี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม โดยมี พ.ต.อ.สราวุธ ชูประสิทธิ์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ได้เข้าพูดคุย พร้อมให้ความเชื่อมั่นว่า ผู้ก่อเหตุที่มีการเข้ามอบตัวนั้น เป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุจริง และพร้อมให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่
พ.ต.อ.สราวุธ ชูประสิทธิ์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีฯ ว่า ได้มีการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานในทุกมิติ ทั้งพยานบุคคล และพยานวัตถุ ตลอดจนกล้องวงจรปิดในจุดต่างๆ จนเกือบครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว จากพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุ ได้มีการแจ้ง 2 ข้อหา ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อกล่าวหา ชิงทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยพิจารณาจากพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุ ซึ่งได้มีการคว้าเอาสร้อยคอทองคำและกระเป๋าของผู้เสียชีวิตไปด้วย แม้ในทางสอบสวนคนร้ายจะอ้าสงว่ามีเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน และเป็นการลงมือผิดตัวก็ตาม เบื้องต้นในชั้นพนักงานสอบสวน ไม่อนุญาตให้ประกันตัว และจะมีการคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้มีการชี้แจงข้อมูลและการเยียวยาต่างๆ ให้กับทางญาติไปแล้ว ส่วนที่มีการขอการคุ้มครอง เนื่องจากเกิดความไม่สบายใจ เพราะไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน ส่วนกรณีที่ว่ามีการจับผิดตัว น่าจะหมดไปแล้ว เพราะทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้มีการชี้แจงอธิบายและให้ดูกล้องวงจรปิด ทั้งก่อน ระหว่างและหลังเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังมีการตรวจ DNA เพื่อยืนยันเอกลักษณ์บุคคล ซึ่งทำให้ทางญาติมีความเข้าใจมากขึ้น ในการทำคดีก็ไม่ได้มีอะไรหนักใจคงว่าไปตามพยานหลักฐาน นอกจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว
ด้านนางสาวนพสร ทองผือ ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า จากการพูดคุยกันในกลุ่มของภรรยาและญาติของลุงเริญฯ นั้น ยังติดใจในคำให้การของผู้ก่อเหตุ ที่บอกว่าลุงเริญ เป็นคู่อริ และอ้างว่าชื่อลุงนิด ในมุมมองของญาติคิดว่าหากเขารู้จักลุงนิดที่มีปัญหากันมาก่อนนั้น น่าจะมีการพูดกันแล้ว และน่าจะจำหน้ากันได้ จึงไม่น่าจะเป็นการทำร้ายผิดคน และดูเหมือนผู้ก่อเหตุจะมีการเตรียมตัวมาก่อน ไม่ว่าจะเรื่องของการพกพามีด หรือเสื้อผ้าที่นำมาเปลี่ยน ซึ่งในส่วนของลุงเริญ เรามั่นใจว่า ไม่น่าจะมีปัญหากับใคร เพราะโดยส่วนตัวของลุงเริญ ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ดังนั้นจึงทำให้คิดได้ว่า เขาตั้งใจมาก่อเหตุกับใครก็ได้ แต่ถือเป็นคราวเคราะห์ของลุงเรา ดังนั้นเราจึงไม่เชื่อว่าเป็นการทำผิดคน
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายปัณ (นามสมมุติ) ส่งฝากขังไปยังศาลจังหวัดภูเก็ต
