“บิ๊กโจ๊ก”บินด่วนแถลงรวบคนร้ายจี้ชิงเงินยูโรตู้แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ กว่า 2 แสนบาท เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของเมืองท่องเที่ยว
จากกรณีคนร้ายบุกเดี่ยว ใช้อาวุธปืนจี้พนักงานตู้แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ที่บริเวณริมถนน ตรงข้ามห้างดัง ถ.ผังเมืองสาย ก ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยคนร้ายได้เงินสดทั้งเงินต่างประเทศและเงินไทยไปจำนวน กว่า 2 แสน บาท หลังก่อเหตุหลบหนีไปอย่างลอยนวล โดยคดีนี้ทาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง และ ตร.ภูธรภาค 8 เร่งคลี่คลายคดีโดยเร็วที่สุด โดยให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกจุดที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 19.30 น. วันนี้ (17ก.พ.) ที่ห้องประชุมชั้น 3 สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผบช.ภ.8 พล.ต.ต.เสริมพันธ์ุ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต และ พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี ผกก.สภ.ป่าตอง ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายเสกสรรค์ วงษวิราช 20 ปี บ้านเดิมอยู่ที่ ต.บ่อรัง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ พร้อมด้วยของกลาง เสื้อผ้าและถุงมือที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ ธนบัตรไทย ฉบับละ 1,000 จำนวน 96 ฉบับ ธนบัตรต่างประเทศ ฉบับละ 50 ยูโร จำนวน 3 ฉบับ อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ใช้ก่อเหตุ) จำนวน 1 กระบอก สร้อยคอทองคำ จำนวน 1 เส้น สร้อยคอเงิน จำนวน 1 เส้น ใบเสร็จรับเงิน ห้างทองหวังโต๊ะกังเยาวราช จำนวน 1 ใบโทรศัพท์ ยี่ห้อ Iphone 13 pro max จำนวน 1 เครื่อง และ โทรศัพท์ ยี่ห้อ Redmi รุ่น Note 11 จำนวน 1 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่ห้องเช่าเลขที่ 6 ซ.นาใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุได้สั่งให้ ผบช.ภ.8 ให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาให้โดยเร็วที่สุด และให้มีการสืบสวนหาภาพกล้องวงจรปิดอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งช่วงเช้าวันที่ 14 ก.พ.65 นายเสกสรรค์ได้ว่าจ้างรถแท็กซี่จาก ต.ป่าตอง อ.กะทู้ มุ่งหน้าไปยัง จ.กระบี่ ในราคา 4,000 บาท โดยได้จ่ายเป็นเงินต่างประเทศ 150 ยูโร และเมื่อถึง ต.อ่าวนาง จ.กระบี่ นายเสกสรรค์ได้แลกเงินอีก 500 ยูโรที่ตู้แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและได้เหมาเรือไปยังเกาะพีพี จ.กระบี่ จากนั้นช่วงสายวันที่ 15 ก.พ.65 ได้ย้อนกลับมายัง จ.ภูเก็ตทและได้ไปแลกเงินยูโรอีก เพื่อไปซื้อทองรูปพรรณที่ร้านทองในห้างเซ็นทรัลภูเก็ตและช๊อปปิ้งสินค้าอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นชุดสืบสวน สภ.ป่าตองได้ติดตามคนขับรถแท็กซี่ที่ไปส่ง นายเสกสรรค์ จนรู้ว่ามนายเสกสรรค์พักที่ห้องเช่าย่านซอยนาใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ต่อมาเวลา 02.00 น.วันที่ 17 ก.พ.65 ชุดสืบสวนได้เข้าตรวจสอบและจับกุมนายเสกสรรค์ในห้องเช่าดังกล่าว โดยพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เงินสด 6,000 บาท
เบื้องต้นในชั้นจับกุมนายเสกสรรค์ให้การยอมรับสารภาพ ว่า ได้ก่อเหตุจริง เนื่องจากไม่มีเงินใช้ เพราะตกงาน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็นเชฟและได้ลาออกจากงาน จึงตัดสินใจมาก่อเหตุในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ทางชุดสืบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ชิงทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืน มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวต่ออีกว่า เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว เมื่อเหตุเกิดขึ้นต้องจับให้ได้โดยเร็วที่สุด พร้อมกำชับให้ทุกสภ.เน้นดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวให้ดีที่สุด
