ประมงภูเก็ตวางมาตรการห้ามออกนอกพื้นที่ท่าเรือประมง ตรวจคัดกรอง100% ทั้งท่าเรือ ลูกเรือ แรงงานภาคประมง ขณะที่นายกสมาคมประมงภูเก็ตขอให้ปิดพื้นที่ 14 วัน
นายวัชรินทร์ รัตนชู ประมงจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการสกัดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มลูกเรือประมง ว่า ได้แบ่งมาตรการออกเป็น 3 ส่วน คือ มาตรการควบคุมท่าเทียบเรือประมงให้ปลอดจากเชื้อโควิด-19 ด้วยตรวจคัดกรอง 100% ทุกคนที่เข้าไปทำกิจกรรมในท่าเทียบเรือประมง มาตรการควบคุมเรือประมง เพราะเรือประมงและแรงงานในเรือประมงเป็นกลไกลที่สำคัญในการแพร่กระจาย จะมีการตรวจคัดกรองแรงงานลูกเรือ 100% ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการคัดกรองไปแล้วบางส่วนและกำหนดมาตรการไม่ให้ลูกเรือออกนอกพื้นที่ท่าเทียบเรือและให้อยู่เฉพาะในเรือเท่านั้น ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมืออย่างดี มีชุดตรวจผู้ที่ฝ่าฝืน
และมาตรการแรงงานภาคประมง ที่มีประมาณ 3,000 คน เป็นคนไทยประมาณ 1,400 คนไทย และแรงงานต่างด้าวประมาณ 1,6 00 คนต่างด้าว ซึ่งทำงานอยู่บนบกบริเวณท่าเทียบเรือประมง จะมีการคัดกรอง 100% เช่นกัน และหากท่าเทียบเรือประมงใดมีการติดเชื้อและทางสาธารณสุขเห็นสมควรให้ปิดก็จะสั่งปิดทันที
ส่วนพ่อค้า-แม่ค้า ที่เข้าไปซื้อสัตว์น้ำที่บริเวณท่าเทียบเรือนั้น จะต้องมีบัตรผ่านการเข้า-ออก ต้องฉีดวัคซีน และต้องมีผลตรวจหาเชื้อโควิดทุก 7 วัน เพราะกลุ่มนี้อาจจะเป็นพาหนะนำเชื้อไปติดกลุ่มอื่นๆที่อยู่ภายนอกท่าเรือได้ เพราะต้องนำสัตว์น้ำไปจำหน่ายต่อ รวมไปถึงชุมชนประมงที่อยู่บริเวณรอบๆ ท่าเทียบเรือประมง 4 ชุมชนหลัก จะมีการตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้น
ประมงจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อว่า ถึงแม้ว่าจังหวัดภูเก็ตจะมีการคุมเข้มในส่วนของเรือประมง และลูกเรือประมง รวมไปถึงพื้นที่ท่าเทียบเรือประมง แต่ยันยันว่าภูเก็ตจะไม่ขาดแคลนสัตว์น้ำอย่างแน่นอน เพราะสามารถผลิตได้ปีละกว่า 1 แสนตัน และขอยืนยันว่าสัตว์ที่นำมาประกอบอาหารมีความปลอดภัยหากเราปรุงสุก
ด้าน นายสมยศ วงศ์บุญยกุล นายกสมาคมชาวประมงภูเก็ต กล่าวถึงเหตุผลที่เสนอให้ปิดท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต ว่า ด้วยแรงงานประมงส่วนใหญ่จะมีร่างกายแข็งแรง และมีการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วกว่า 90% แต่เหตุที่เกิดคลัสเตอร์การติดเชื้อโควิด-19 ขึ้น เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เกิดมรสุมเรือไม่สามารถออกไปทำการประมงได้ ทำให้ลูกเรือประมงลงจากเรือมาขึ้นฝั่ง และไปสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชน ก่อนที่จะนำเชื้อไปติดคนที่อยู่บนเรือ และเกิดการแพร่กระจาย เพราะที่ผ่านมาบนเรือไม่เคยมีการติดเชื้อแต่อย่างใด
“จากการประชุมร่วมกันของผู้ประกอบการเรือประมงพาณิชย์ เพื่อหาแนวทางป้องกันและนำตัวผู้ที่ติดเชื้อมาทำการรักษาให้แล้วเสร็จภายใน 14 วัน พร้อมกันนี้ก็ได้หารือและเสนอกับทางประมงจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอให้ปิดท่าเทียบเรือประมงภูเก็ตหรือท่าเทียบเรือองค์การสะพานปลา เป็นเวลา 14 วัน เพื่อนำตัวแรงงานประมงพาณิชย์ทั้งหมดมาทำการตรวจหาเชื้อให้ได้ 100% เพื่อนำผู้ติดเชื้อไปอยู่โรงพยาบาลสนาม ส่วนของกลุ่มเสี่ยงก็จะทำการกักตัวไว้บนเรือ เพื่อจะได้มาสัมผัสกับผู้ที่อยู่บนฝั่ง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเขียนแผนและจักทำมาตรการ คาดว่าจะเริ่มปิดในวันที่ 20 สิงหาคมนี้”
นายสมยศ กล่าวว่า เหตุที่ต้องเสนอให้ปิดในระยะนี้ เนื่องจากเป็นช่วงที่เรือประมงอวนล้อมซึ่งเป็นเรือส่วนใหญ่ที่เข้ามาใช้บริการท่าเทียบเรือองค์การสะพานปลามีจำนวนประมาณ 40 ลำ หยุดทำการประมงชั่วคราวเป็นเวลาประมาณ 7-8 วัน เนื่องจากเป็นช่วงเดือนหงาย แม้ว่าหายจะกินระยะเวลาเพิ่มขึ้น แต่ผู้ประกอบทั้งหมดยินดีให้ความร่วมมือ ส่วนของฝั่งท่าเรือหรือแพปลาของเอกชนนั้น เนื่องจากส่วนใหญ่กว่า 90% เป็นเรืออวนลาก วิธีการทำงานส่วนใหญ่จะอยู่กลางทะเลอย่างน้อย 10 วัน และจากการพูดคุยกับผู้ประกอบการได้วางมาตรการว่า เมื่อเรือเข้ามาเทียบท่าห้ามลุกเรือทั้งหมดออกจากท่า ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการออกประกาศไว้แล้ว พร้อมทั้งในส่วนของฝ่ายปกครองก็ได้มีการจัดตั้งด่านตรวจด่านสกัดเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกเรือออกไปจากท่าเรือ
อย่างไรก็ตาม นายสมยศ กล่าวด้วยว่า จะต้องเร่งดำเนินการทุกอย่างให้แล้วเสร็จก่อนที่จะเปิดทำการประมงรอบใหม่ ส่วนการซื้อขายสัตว์น้ำนั้นอาจจะมีปัญหาบ้างแต่คิดว่าไม่มาก เนื่องจากปกติเป็นช่วงที่เรืองดออกทำการทำประมงอยู่แล้ว ประกอบกับในส่วนของแพปลาเอกชนก็มีการขึ้นสัตว์น้ำปกติทุกวัน จ่อปิดท่าเทียบเรือประมง องค์การสะพานปลา สกัดเชื้อโควิด
ขณะที่ นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากที่ตัวเลขการติดเชื้อในกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเพิ่มขึ้น จนกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ๆ มาจาก 3 กลุ่ม คือ คลัสเตอร์ตลาดสด คลัสเตอร์ลูกเรือประมง และ คลัสเตอร์แคมป์คนงาน โดยเฉพาะในส่วนของการติดเชื้อของลูกเรือประมงและแรงงานต่างด้าวในบริเวณสะพานปลาที่ตัวเลขเพิ่มสูงขึ้นและมีโอกาสที่จะแพร่ไปยังพื้นอื่นๆ ทางอำเภอเมืองภูเก็ตและประมงได้วางมาตรการในการป้องกันการแพร่เชื้อ ดำเนินการปิดพื้นที่ ห้ามใช้พื้นที่องค์การสะพานปลา ในวันพรุ่งนี้ ทางจังหวัดจะมีการประชุมและออกคำสั่งปิดท่าเทียบเรือประมง องค์การสะพานปลา และเปิดได้เฉพาะท่าเทียบเรือประมงที่เป็นของเอกชนเท่านั้น
ส่วนกลุ่มตลาดเทศบาล 1 และ ตลาดดาวทาวน์นั้น ก่อนหน้านี้ได้มีการสั่งปิดพื้นที่ไปและครบ 7 วันแล้วตามคำสั่งแล้ว ทางสาธารณสุขได้ลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อโควิด-19 กลุ่มเสี่ยง ครั้งที่ 2 เมื่อวานนี้ (17 ส.ค.) ตรวจคนไทย 860 คน ผลเป็นบวก 5 คน แรงงานเมียนมา 500 คน พบผลบวก 13 คน วันนี้จึงได้เปิดพื้นที่แล้วโดยรอบแล้ว แต่ในส่วนของตลาดสดนั้น จะต้องรออีก 1-2 วัน เพื่อเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ
