ปิดต่อทางเขาป่าตอง ห้ามคนเดินผ่าน ไม่ปลอดภัย ดินพร้อมถล่มลงมาตลอดเวลา พรุ่งนี้กรมทางหลวงเจาะดิน วิเคราะห์ความแข็งแรง จะบอกได้ว่าสามารถเปิดให้คนเดินผ่านได้หรือไม่ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
จากกรณีที่ถนนทางขึ้นเขาป่าตอง จ.ภูเก็ต ทรุดตัวจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้น้ำกัดเซาะดินและสไลด์ลงมา จนต้องปิดการจราจรทั้งฝั่งกะทู้ และ ป่าตอง ทำให้รถที่จะเข้าป่าตองจะต้องใช้เส้นทางกะรน หรือ เส้นทางกมลา แทน เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เพราะสภาพดินพร้อมที่จะสไลด์ลงมาตลอดเวลา
นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายเฉลิมศักดิ์ มณีศรี นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง นายชัยอนันท์ สุทธิกุล นายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ นายศิวัฐ ระวังกุล นายอำเภอกะทู้ ประชุมหารือร่วมกับ นายทรงยศินธ์ ชนปทาธิป ผอ.สำนักทางหลวงที่ 17 ดร.ปรนิก จิตต์อารีกุล วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ สำนักวิเคราะห์และตรวจสอบ กรมทางหลวง และ นายยุทธนา พิทักษ์ ผอ.แขวงการทางภูเก็ต
เพื่อหาแนวทางในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการสัญจรผ่านทางเส้นทางดังกล่าว เนื่องจากทางองค์กรปกครองส่วนท้อง ทั้งเทศบาลเมืองป่าตองและเทศบาลเมืองกะทู้ ได้รับการร้องขอจากประชาชนที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าวในการเดินทางเข้าออกระหว่างกะทู้ – ป่าตอง เพื่อไปทำงาน โดยใช้วิธีเดินผ่านจุดที่ถนนทรุดตัว หลังจากที่ทางจังหวัดภูเก็ตได้ปิดเส้นทางการจราจรหลังเกิดดินทรุดตัว
อย่างไรก็ตาม จากการประชุมหารือร่วมกันในวันนี้ ทางผู้เชี่ยวชาญจากกรมทางหลวงได้ให้ข้อมูลว่า จากการลงพื้นที่สำรวจในเบื้องต้น พบว่าปัญหาถนนทรุดตัวเกิดจากน้ำในท่อระบายน้ำจำนวนมากได้ไหลลงมากัดเซาะดินที่เกิดจากการถมเพื่อทำคันทาง ทำให้ดินไม่สามารถอุ้มไว้ได้จึงถล่มลงมา และพร้อมที่จะสไลด์ลงมาได้ตลอดเวลา เนื่องจากโครงสร้างดินไม่มีความแข็งแรงและมีการเคลื่อนตัวตลอด จึงไม่แนะนำที่จะให้เปิดการจราจรผ่านบริเวณดังกล่าวในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเดินผ่านก็ตาม ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้มีข้อมูลความชัดเจนของโครงสร้างชั้นดินในบริเวณที่จะเปิดให้เดินผ่านและจุดใกล้เคียง ทางกรมทางหลวงจะนำเครื่องคอริ่ง ขุดเจาะดินเพื่อวิเคราะห์ความแข็งแรงของชั้นดินว่าเพียงพอที่จะเปิดให้ประชาชนเดินผ่านไปมาในบริเวณดังกล่าวได้หรือไม่ โดยจะทำการขุดเจาะวิเคราะห์ หากโครงสร้างดินเป็นดินภูเขาเดิมที่มีชั้นหินก็สามารถที่จะเปิดให้เดินผ่านได้ แต่หากเป็นดินที่เกิดจากการถมเพื่อทำคันทางก็คงต้องปิดการจราจรในจุดนี้ต่อไป จนกว่าทางแขวงการทางภูเก็ตจะทำทางสำรองเพื่อให้รถวิ่งได้ ซึ่งในเบื้องต้นจากการประชุมหารือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันหลังจากฝนหยุดตก
