ผลชันสูตรซากวาฬบลูด้าพบว่าอวัยวะส่วนใหญ่เน่าและย่อยสลาย ภายในกระเพาะอาหารพบของเหลวปนอาหารเล็กน้อย และมีผลลูกจาก จำนวน 2 ลูกส่วนของลำไส้เล็กส่วนกลางพบถ้วยพลาสติกจำนวน 1 ใบ
จากรณีเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2565 เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน และศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดภูเก็ต กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้รับการประสานจากสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต กรณีได้รับแจ้งจาก
นายสฤทธิ์ จันดี เครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเกาะราชาใหญ่ว่า พบซากวาฬขนาดใหญ่ลอยเสียชีวิตอยู่ที่เกาะราชา ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จึงได้นำเรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 308 และเรือสปีดโบ๊ทออกไปตรวจสอบซากวาฬขนาดใหญ่ ที่ลอยเกยตื้นบริเวณอ่าวแหลมไทร ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของเกาะราชา พบว่าเป็นซากวาฬไม่ทราบชนิดลอยมาติดอยู่ที่บริเวณริมชายฝั่ง อ่าวแหลมไทร จึงนำกลับมายังฝั่งเกาะภูเก็ต
ทั้งนี้ จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดภูเก็ต สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 ได้เข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบซากวาฬดังกล่าวในวันที่ 30 ตุลาคม 2565 พบว่าเป็นซากวาฬบรูด้า ขนาดความยาวลำตัว 13 เมตร เพศเมีย โตเต็มวัย สภาพซากเน่ามาก และได้นำซากวาฬดังกล่าวมาชันสูตรหาสาเหตุการตาย ณ ศวอบ. โดยผลการชันสูตรซากพบว่าอวัยวะส่วนใหญ่เน่าและย่อยสลาย ภายในกระเพาะอาหารพบของเหลวปนอาหารเล็กน้อย และมีผลลูกจาก จำนวน 2 ลูก ซึ่งไม่ใช่อาหารตามปกติ ภายในลำไส้พบของเหลวตลอดลำไส้และพบพยาธิตัวกลมและพยาธิตัวตืดเล็กน้อย โดยในส่วนของลำไส้เล็กส่วนกลางพบถ้วยพลาสติกจำนวน 1 ใบ แต่ยังไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของลำไส้
โดยสาเหตุการตายเบื้องต้นพบว่าวาฬดังกล่าวมีสภาพร่างกายสมบูรณ์ แต่มีสภาพซากเน่ามากจึงไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้แน่ชัด
