นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตในข่วงเดือนเม.ย. ว่า ในช่วงวันหยุดยาวนักท่องเที่ยวแจ้งยกเลิการเดินทางจำนวน 15% และเลื่อนการเดินทางจำนวน 30 % ทำให้ยอดรวมหายไปประมาณ 45% โดยในส่วนของ 30% ที่เลื่อนออกไปพร้อมที่จะเดินทางกลับมาอีกครั้งในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.
ขณะที่ ดร.ชยานนท์ ภู่เจริญ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา คณะการบริการและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต กล่าวว่า ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดโควิดระลอกเดือนเม.ย. หลายคนคาดหวังว่าเศรษฐกิจเดือนเม.ย. จะเป็นเดือนที่ดีที่สุดของรายได้จากการท่องเที่ยวตั้งแต่เม.ย. 63 เนื่องจากปีนี้ในช่วงเดือน เม. ย. มียอดจองห้องพัก โรงแรม ร้านอาหารเข้ามาจำนวนมาก ประมาณการรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงดังกล่าวอยู่ที่ 2,300 ล้านบาท ซึ่งในเดือน ธ.ค. 63 ภูเก็ตมีรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 1,565 ล้านบาท ซึ่งถ้าเป็นไปตามคาด เศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ตจะดีขึ้น คนภูเก็ตจะมีรายได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5,162 บาทต่อเดือน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงที่ผ่านมาที่มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 1,963 บาทต่อเดือน แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด จากประมาณการณ์รายได้ดังกล่าวจะทำให้ภูเก็ตก้าวพ้นเส้นความยากจน
แต่หลังเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกเดือนเม.ย. นักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางจำนวน 15% และ เลื่อนการเดินทาง 30 % ทำให้ยอดรวม ของนักท่องเที่ยวคนไทยที่ไม่มาภูเก็ตในช่วงเดือน เม.ย. รวม 45 % ทำให้รายได้ที่ประมาณการณ์ ไว้จะหายไปเกือบครึ่ง รายได้ต่อหัวประชากรลดลงไปอยู่ที่ประมาณ 2,800 บาท ทำให้ภูเก็ตสามารถก้าวผ่านเส้นความยากจนไปได้
ด้านนางสาวนันทาศิริ รณศิริผอ.ททท.สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า ในช่วงตั้งแต่วันที่ 10-15 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ มีนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต จำนวน 146,000 กว่าครั้ง ทำให้เกิดรายได้ในช่วง 6 วัน จำนวน 1,000 กว่าล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจะมาจากกรุงเทพฯและภาคใต้เป็นหลัก
