เดินมาครบ 1 เดือนแล้ว ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ากว่า 14,000 คน สร้างรายได้ให้ภูเก็ตกว่า 800 ล้านบาท ยอดจองห้องพัก 3 เดือน ทะลุกว่า 300,000 คืน
จังหวัดภูเก็ตได้เปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยไม่ต้องกักตัว ตามโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นมา เดินทางมาครบ 1 เดือนแล้ว แม้ในช่วงแรกๆ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะยังไม่มากนัก บางเที่ยวบินมีไม่ถึง 100 คน แต่ตัวเลขนักท่องเที่ยวค่อยขยับเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ
ล่าสุด ททท.ได้รายงานสถานการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าภูเก็ต ที่เดินทางเข้าภูเก็ตในวันที่ 31 ก.ค.2564 จำนวน 773 คน จากจำนวน 7 เที่ยวบิน และตั้งแต่วันที่ 1 – 31 ก.ค.2564 นี้ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ตตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จำนวน 14,055 คน ซึ่งในจำนวนนี้ตรวจพบเชื้อโควิดทั้งหมด 32 ราย
ส่วนการจองห้องพักโรงแรม Sha+ผ่านทางระบบ Shaba ระหว่างเดือน ก.ค.-ก.ย.จำนวน 309,719 คืน เป็นการจองในเดือน ก.ค.จำนวน 190,843 คืน เดือน ส.ค.จำนวน 109,694 คืน และ เดือน ก.ย.จำนวน 9,182 คืน และในระหว่างเดือน ต.ค.2564 – ก.พ.2565 มีการจองเข้ามาแล้ว 6,857 คืน
โดยนักท่องเที่ยวลำดับต้นๆ ที่เข้ามาภูเก็ต คือ สกรัฐอเมริกา อิสราเอล ไทย อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศษ เป็นต้น
ส่วนสายการบินที่ทำการบินเข้าภูเก็ต ตั้งแต่เปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์จนถึงขณะนี้ อาทิ การบินไทย การ์ค้าแอร์เวย์ เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ สิงคโปร์ แอร์ไลน์ เอทีฮัท เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ตลอดเดือน ก.ค.นี้ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาภูเก็ต 14,055 คน สร้างรายได้ให้ภูเก็ตไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท โดยคำนวนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาทั้งหมด 14,000 กว่าคน อัตราการพักเฉลี่ย 11 คืน และ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนต่อวันอยู่ที่ 5,400 ล้านบาท (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน) ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่ต่ำกว่าก่อนเกิดโควิด-19 ทั้งนี้เนื่องจากร้านค้าต่างๆ ยังเปิดให้บริการน้อยอยู่ ทำให้การจ่ายใช้ของนักท่องเที่ยวต่ำตามไปด้วย
ส่วน ในเดือน ส.ค.ที่จะถึงนี้ ก่อนหน้านี้ ททท.ได้รายงานว่าตัวเลขการจองห้องพักโรงแรมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ชะลอตัว เนื่องจากสถาณการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยที่ยังรุนแรง เป็นพื้นที่สีแดง ทำให้นักท่องเที่ยวขาดความมั่นใจในการเดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ต
