รมว.ท่องเที่ยวฯ ลงซอยบางลา ป่าตอง พูดคุยกับผู้ประกอบการสถานบันเทิง

รมว.ท่องเที่ยวฯลงซอยบางลา ป่าตองพูดคุยกับผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง มีพนักงานของสถานบันเทิงออกมายืนชูป้ายข้อความต่างๆ เพื่อเรียกร้องให้ช่วยเหลือในการขยายเวลาเปิดสถานบริการได้ไปจนถึงเวลา 4 นาฬิกา ด้านประธานชมรมผู้ประกอบการฯหากสามารถขยายเวลาการเปิดออกไปได้จนถึง 4 นาฬิกา จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 100 ล้านบาทต่อเดือน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เพื่อพบปะและพูดคุยกับผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง นำโดย นายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมสถานบันเทิงหาดป่าตอง และตัวแทนผู้ประกอบการสถานบันเทิงซอยบางลา พร้อมกันนี้ยังได้มีการลงพื้นที่ซอยบางลา ซึ่งเป็นถนนคนเดินยามราตรี และเป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักแต่ร้านจะมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันมีพนักงานของสถานบันเทิงออกมายืนชูป้ายข้อความต่างๆ เพื่อเรียกร้องให้ช่วยเหลือในการขยายเวลาเปิดสถานบริการได้ไปจนถึงเวลา 4 นาฬิกา และขอบคุณรัฐมนตรีฯ ด้วย

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังลงพื้นที่ว่า สำหรับการลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับผู้ประกอบการสถานบันเทิงซอยบางลาไม่ใช่ที่แรก โดยต่างบอกว่าควรจะขยายเวลาไปจนถึงเวลา 4 นาฬิกา แต่เนื่องจากเป็นเรื่องข้อกฎหมายจึงต้องนำข้อเสนอไปหารือกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากเป็นความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะหลังเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 และภูเก็ตได้รับผลกระทบค่อนข้างรุนแรง ที่สำคัญผู้ประกอบการสถานบันเทิงพึ่งได้รับการอนุญาตให้เปิดบริการได้ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

นายพิพัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า จากการลงพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นถนนบางลา ป่าตอง ถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ เกาะสมุย และเกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี มีข้อเรียกร้องที่เหมือนกัน คือ ขอให้รัฐบาลขยายเวลาในการเปิดสถานบริการถึงเวลา 4 นาฬิกา โดยจะได้นำข้อเสนอดังกล่าวไปหารือกับ ศบค. ว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการได้อย่างไรบ้างในการผ่อนผันให้ได้ถึง 4 นาฬิกา แต่คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะเป็นเรื่องข้อกฎหมายและเป็นกฎหมายที่มีการใช้มาเป็นเวลานาน ดังนั้นคงต้องค่อยๆ แก้ปัญหากันไป โดยตนพร้อมร่วมหารือและขับเคลื่อนในการขยายเวลาในการเปิดสถานบันเทิงตามที่มีการร้องขอ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีความสุขและสนุกสนานในการดื่มกินกับเพื่อนฝูง ทั้งนี้อยากให้สื่อมวลชนได้สอบถามกับนักท่องเที่ยวว่า เขามีความพอใจมากน้อยเพียงใด ที่สำคัญ คือ จากข้อมูลการทำวิจัยของนิด้าและราชภัฎภูเก็ต ตรงกันว่ารายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงเวลา 1-3 นาฬิกา เป็นช่วงพีกที่สุด และค่อยๆลดลงจนถึง 4 นาฬิกา และรายได้ที่เกิดขึ้นไม่เฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่เท่านั้น แต่กระจายไปยังกลุ่มอื่นๆ เป็นลูกโซ่ด้วย เช่น เกษตรกรรม เป็นต้น ทั้งนี้จะนำเข้า ศบค.ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ เนื่องจากไม่สามารถนำเข้าได้ทันในเดือนกันยายนนี้ โดยเรื่องที่ยากที่สุด คือ การแก้กฎหมาย แต่หากไม่เริ่มต้นทุกอย่างก็ไม่เกิด โดยจะเอาข้อเท็จจริงที่ได้รับทั้งหมดไปหารือกับนายรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

 

ด้าน นายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมสถานบันเทิงหาดป่าตอง กล่าวว่า ด้วยรัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ มีแนวคิดในการผลักดันให้สถานบันเทิงเปิดให้บริการได้ถึง 4 นาฬิกาในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น บางลา ป่าตอง, พัทยา เชียงใหม่ เกาะสมุย เป็นต้น สำหรับภูเก็ต หากสามารถขยายเวลาการเปิดออกไปได้จนถึง 4 นาฬิกา จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 100 ล้านบาทต่อเดือน เพราะเป็นช่วงเวลาที่พีกพอสมควร สามารถทำมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ค่อนข้างมาก ดึก ซึ่งการเปิดบริการถึงเวลา 2 นาฬิกา นักท่องเที่ยวมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวประมาณ 3,000-4,000 บาท แต่ยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวด้วยพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการสถานบันเทิงในช่วงที่ค่อนข้าง และการขอเปิดถึง 4 นาฬิกา ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องที่มีการนำเสนอมาค่อนข้างนานมากแล้วว่า การขยายเวลาออกไปจะเกิดผลทางเศรษฐกิจและกระตุ้นการท่องเที่ยว เชื่อมโยงไปถึงอาชีพอื่นๆ ที่จะได้รับอานิสงค์ไปด้วย ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่ป่าตองมีผู้ประกอบการสถานบันเทิงเปิดให้บริการแล้ว 100% นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นอินเดีย และทราบว่าขณะนี้รัสเซียกำลังเดินทางกลับเข้ามาในเร็วๆ นี้ รวมถึงยุโรป หากขยายเวลาออกไปอีกจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ปัจจุบันรายได้ที่เกิดจากสถานบันเทิงเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ประมาณวันละ 20 ล้านบาท ตลอดทั้งเดือนอยู่ที่ประมาณ 600 ล้านบาท

Subscribe