รวบหนุ่มเมียนมาร์หลังสาวไทยเข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกข่มขืน

ชุดสืบสวนเมืองภูเก็ตรวบหนุ่มเมียนมาร์หลังจากที่ถูกสาวไทยเข้าแจ้งความร้องทุกข์ถูกข่มขืน หลังคดีไม่คืบหน้าร้องเพจดัง ด้านผู้ต้องหาอ้างว่า ไม่ได้ข่มขืน แต่สาวไทยยืนยันข่มขืนทางทวารหนัก

จากกรณีเมื่อวันที่ 20 ก.ย.64 ได้มีเพจชื่อดัง “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1” ได้มีการโพสต์ข้อความระบุว่า “หญิงไทยถูกพม่าข่มขืน 3 คน ชายสองหญิงหนึ่ง สองคนจับ หนึ่งคนข่มขืน เหตุเกิดเมื่อ 27 ส.ค.64 ที่ผ่านมา ตร.บอกรอผลตรวจจาก รพ.(นานไปไหม) ถึงจะจับผู้กระทำ ฝ่ายผู้กระทำไม่เกรงกลัวแถมแอบอ้างรู้จัก ตร.และมีเงิน ผู้เสียหายกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม และเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาที่ยากจน เหตุเกิดที่ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต แจ้งความไว้ที่ สภ.สามกอง (สภ.เมืองภูเก็ต) ฝากเรียนถึง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ตตรวจสอบและสั่งการลงมาด้วย และอีกข้อความระบุว่า เรื่องเกิดตั้งแต่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา จนปานนี้ตำรวจยังไม่จับคนร้ายเลย แจ้งความแล้ว หาหมอเก็บหลักฐานทุกอย่างไว้แล้ว แต่ทุกอย่างยังเงียบ อยากให้ทางเพจช่วย เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงค่ะ อยากให้ทางเพจช่วยเหลือเค้าหน่อย เราคนไทยอยู่เมืองไทย ทำไมต้องให้พม่ามาทำร้ายเรา เพราะว่าเค้ามีเงินหรอ ตำรวจเลยไม่ใส่ใจ เลยไม่จับคนร้าย ภาพที่โดนซ้อมอยู่กับหมอหมด ถ้าทางเพจช่วยเค้า ดิฉันขอขอบคุณมากๆ ค่ะ” หลังจากที่มีการโพสต์ข้อความดังกล่าวมีการแชร์ไปกว้างขวาง และผู้เสียเกรงว่า คดีไม่มีความคืบหน้า ขณะเดียวกันผู้เสียหายยังอ้างว่า ผู้ต้องหารู้จักเจ้าหน้าที่ตำรวจและมีเงิน ทำให้คดีไม่มีความคืบหน้าจึงมีการร้องเรียนไปยังเพจดังกล่าว

ต่อมาวันนี้ (21ก.ย.) พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้สั่งการไปยัง พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว จนทราบว่า เมื่อวันที่ 28 ส.ค.64 น.ส.ศรี (นามสมมติ) อายุประมาณ 45 ปี ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.จักรกริช ธรรมรักษา สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต ว่า ถูกคนร้ายเป็นชายชาวเมียนมาร์ 1 คนข่มขืนและอีก 2คนช่วยกันจับในบ้านเช่าย่าน ต.รัษฎา อ.เมือง เมื่อคืนวันที่ 27 ส.ค.64 โดยพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไว้ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นพบว่า คนร้ายดังกล่าวเป็นลูกเรือประมง ชื่อ นายเน นี นัง ทราบว่า วันนี้ (21ก.ย.) ได้ออกไปหาปลากับเรือประมงแต่เรือประมงเกิดขัดข้องจึงเข้ากลับเข้าเทียบท่า โดยผู้ก่อเหตุได้กลับไปพักที่บ้านเช่า ต.รัษฎา อ.เมือง จึงรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เสนอต่อศาลจังหวัดภูเก็ตอนุมัติหมายจับ

จากนั้นชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.สาธิต หนูฤทธิ์ รองผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ทัพไทย ลีลานนท์ สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต ร.ต.อ.ตะวัน นวลแก้ว รอง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต  ได้เข้าตรวจสอบที่บ้านเช่าจนสามารถจับกุม นายเน นี นัง ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ตลงวันที่ 21 ก.ย.64 ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้นั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น,หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น และทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ซึ่งเป็นบ้านที่ น.ส.สมศรี (นามสมมติ) อ้างว่า ถูกข่มขืน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ ห้องปฎิบัติการส่วนหน้าสภ.เมืองภูเก็ต

จากการสอบปากคำ นายเน นี นัง ผู้ต้องหา ให้การว่า ไม่ได้ข่มขืนแต่อย่างใด โดยก่อนเกิดเหตุได้ว่าจ้าง น.ส.สมศรีไปทำความสะอาดและซักผ้าที่ห้องพักตกลงราคา 1,000 บาทจากนั้นน.ส.สมศรีได้นอนค้างคืนที่ห้องพักดังกล่าวกับตน 1 คืน และยังยอมรับว่า ได้ตบหน้า น.ส.สมศรีไปหลายครั้ง เนื่องจากมีปากเสียงกันเนื่องจากคิดว่า น.ส.สมศรีเคยขโมยทรัพย์สินของตนไปจึงเกิดความโมโห แต่ตนไม่ได้ข่มขืนและไม่ได้ร่วมรักที่ประตูหลังของน.ส.สมศรี แต่อย่างใด ซึ่งตนรู้จักน.ส.สมศรีมานานแล้วเนื่องจากเคยทำงานร้านคาราโอเกะแถวเกาะสิเหร่ หลังจากที่ร้านปิดโควิด 19 ตนคิดว่า น.ส.สมศรีไม่มีเงินจึงเรียกให้มาทำความสะอาดที่บ้านอยู่บ่อยครั้ง และตนก่อเหตุเพียงคนเดียวไม่มีใครมาร่วมด้วย

ด้าน น.ส.สมศรี ผู้เสียหายเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ช่วงบ่ายๆ ในวันเกิดเหตุ 27 ส.ค.64 นายเน นี นังได้ให้ลูกน้องชาวเมียนมาร์มาตามตนเองให้ไปซักผ้าและทำความสะอาดห้องพักให้ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยไปรับจ้างมาแล้วหลายครั้ง จากนั้นนายเนฯได้สั่งให้ลูกน้องปิดประตู โดยนายเนได้สอบถามตนเองว่า ได้ไปแจ้งตำรวจให้มาค้นห้องพักตนเองหรือไม่ ซึ่งตนเองไม่เคยได้แจ้งตำรวจตามที่นายเนกล่าวหา แต่นายเนไม่เชื่อและพยายามข่มขู่ว่าจะฆ่าตนเองให้ตายถ้าไม่ยอมรับว่าแจ้งตำรวจ จากนั้นนายเนได้ดื่มเหล้าขาวพร้อมกับสั่งลูกน้องให้เอาถุงพลาสติกมาคลุมหัวตนเอง เพื่อจะฆ่าทิ้ง แต่ลูกน้องนายเนไม่กล้าทำ นายเนจึงนำถุงพลาสติกมาคลุมเอง แต่ตนเองพยายามใช้ฟันกัดถุงพลาสติกให้ขาด เพื่อหายใจ โดยตนเองถูกกักขังไว้ในห้องตั้งแต่เวลา 16.00-04.00 น.ของอีกวัน โดยนายเนได้บังคับให้ตนอมนกเขาให้ จากนั้นได้ร่วมเพศทางทวารหนัก แต่ด้วยความเมา จึงไม่สำเร็จความใคร่ จนกระทั่งจนรุ่งสาง เจ้าของแพปลาได้โทรมาหานายเน เพื่อให้ออกไปดูปลาที่เรือจับมาได้ ตนจึงออกอุบายขอไปเข้าห้องน้ำ แต่ก่อนที่นายเนจะออกไปได้ข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ไป 1 ครั้ง เมื่อนายเนออกไปจากห้องพัก ตนจึงรีบปีนหลังบ้านหนีออกมา และเข้าแจ้งความกับตำรวจ ซึ่งก่อนหน้านี้ ยอมรับว่า เคยมีเพศสัมพันธ์กับนายเนมาก่อน และได้เงินครั้งละ 1,500 บาท

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ตได้เก็บดีเอ็นเอที่กระพุงแก้มของนายเน นี นังผู้ต้องหาดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน

Subscribe