รัฐมนตรีการท่องเที่ยวฯ เผยแนวคิดพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงเนื้อที่ 238 ไร่ ในพื้นที่ตำบลไม้ขาว เป็นยอชต์คลับ

รัฐมนตรีการท่องเที่ยวฯ เผยแนวคิดพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงเนื้อที่ 238 ไร่ ในพื้นที่ตำบลไม้ขาว เป็นยอชต์คลับ สปอร์ตคอมเพล็กซ์ รวมถึงศูนย์ประชุม เชื่อมโยงโครงการเมดิคอล พลาซ่า ดึงนักกีฬาต่างชาติมาเก็บตัวฝึกซ้อม พร้อมประสานเอกชนร่วมลงทุน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่หัวเกาะ ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนอยู่งานด้านการท่องเที่ยว วันนี้ภูเก็ตเริ่มที่จะฟื้นกลับแล้วแม้ว่าจะยังเทียบไม่ได้กับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด แต่มั่นใจว่าการท่องเที่ยวจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน เพราะกระทรวงสาธารณสุขกำลังจะประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งจะทำให้การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม จากที่ได้ลงพื้นที่ภูเก็ตในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดบ่อยครั้ง ทำให้เห็นศักยภาพของพื้นที่ตำบลไม้ขาว ซึ่งอยู่หัวเกาะภูเก็ต ในการพัฒนาเพื่อรองรับการท่องเที่ยว และขณะนี้รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ 1,411 ล้านบาท ในการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงบ้านท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว เนื้อที่ 141 ไร่ ตามที่ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และจังหวัดภูเก็ตได้นำเสนอ ตามโครงการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก หรือ เมดิคอล พลาซ่า ซึ่งประกอบไปด้วยศูนย์บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขระดับนานาชาติครบวงจร (Medical Plaza) ศูนย์อภิบาลผู้สูงอายุนานาชาติ ศูนย์ใจรักษ์ และศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูครบวงจร เพื่อผลักดันให้ภูเก็ตเป็นเมดิคอล ฮับ ของอันดามัน และเอเชียใต้

ในขณะเดียวกัน ยังมีที่ราชพัสดุอีกหนึ่งแปลงที่อยู่ทางด้านซ้ายของด่านท่าฉัตรไชย เนื้อที่ประมาณ 238 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต อยู่ในการครอบครองสิทธิของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งตนได้ลงมาสำรวจพื้นที่ราชพัสดุแปลงดังกล่าว รวมไปถึงมีการถ่ายภาพทางอากาศทั้งฝั่งทางบกและทางทะเลไปแล้ว โดยในเนื้อที่ 238 ไร่นั้นมีความเหมาะสมที่จะพัฒนาเป็นยอชต์คลับ คอมเพล็กซ์ ที่มีทั้งสนามกีฬา ที่ประกอบไปด้วย สนามฟุตบอล สนามเทนนิส สนามวอลเลย์บอล สระว่ายน้ำ รวมไปถึงศูนย์ประชุมขนาด 5,000-10,000 คนขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อรองรับตลาดกลุ่ม MICE เป็นต้น

“ตามแนวคิดที่วางไว้จะมีการเชื่อมโยงทั้ง 2 โครงการเข้าด้วยกัน ด้วยการทำถนนทางลอดใต้ด่านท่าฉัตรไชย ซึ่งจากการสำรวจและหารือกับทางโยธาธิการและผังเมือง เจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดภูเก็ต ระยะทางในการทำถนนลอดใต้ด่านท่าฉัตรไชยประมาณ 300 เมตร สามารถเชื่อม 2 โครงการเข้าด้วยกัน ก็จะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะสร้างความเจริญให้เกาะภูเก็ต” นายพิพัฒน์ กล่าวและว่า
เพราะโครงการในลักษณะคอมเพล็กซ์ที่ตนมีแนวคิดที่จะพัฒนานั้นจะเป็นการดึงนักกีฬาจากต่างชาติให้เข้ามาเก็บตัวฝึกซ้อม ในขณะที่โครงการเมดิคอลพลาซ่าที่กระทรวงสาธารณสุขดูแลจะดึงคนจากทั่วโลกมาดูแลสุขภาพที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับภูเก็ตในการรองรับคนจากทั่วโลกในการมาพักผ่อน มาท่องเที่ยว มาดูแลสุขภาพที่ภูเก็ต

นายพิพัฒน์ กล่าวในตอนท้ายว่า ขณะนี้ได้มีการสำรวจพื้นที่ไว้เรียบร้อยแล้ว และได้มีการประสานกับนักลงทุนที่พร้อมจะมาลงทุนไว้แล้ว เพื่อให้เป็นการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อให้โครงการเกิดได้เร็วขึ้นตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้เอกชนเข้ามาลงทุนในโครงการใหญ่ของรัฐ

อย่างไรก็ตาม ที่ราชพัสดุเนื้อที่ 238 ไร่ แปลงนี้ ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดภูเก็ตมีโครงการที่จะก่อสร้างเป็นโครงการก่อสร้างศูนย์กีฬา หรือสปอร์ตคอมเพล็กซ์ (Sport Complex) พร้อมทั้งได้ใช้งบผู้ว่าฯ ซีอีโอในขณะนั้นว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาสำรวจออกแบบ ซึ่งแบบที่เหมาะสมในขณะนั้นคือก่อสร้างเป็นสนามฝึกซ้อมและฟื้นฟูสมรรถภาพนักกีฬา (Sport & Health Spa Resort) เพื่อให้เป็นสถานที่รองรับนักกีฬาต่างประเทศ เช่น ทีมฟุตบอลจากยุโรปที่มีชื่อเสียง รองรับการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติบางรายการโดยเฉพาะกีฬาในร่ม และเป็นรีสอร์ตเพื่อสุขภาพ รองรับทั้งนักกีฬาที่มีชื่อเสียงและนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาทางจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามที่จะของบประมาณมาดำเนินการภายหลังศึกษาแล้วเสร็จ จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการแต่อย่างใด

Subscribe