ผู้การฯ ภูเก็ต เร่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง รวบรวมหลักฐานเสนอศาลออกหมายจับชายชาวทาจิก

ผู้การฯ ภูเก็ต เร่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง รวบรวมหลักฐานเสนอศาลออกหมายจับชายชาวทาจิก

พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการฆาตกรรมชายชาวรัสเซียเสียชีวิตในพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ตเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าผู้ตายลงทุนทำฟาร์มกัญชาที่บ้านหลังเกิดเหตุร่วมกันเพื่อนชาวทาจิกที่เป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าผู้ตาย ก่อนเกิดเหตุมีการโต้เถึยงกัน จนเป็นเหตุให้ฆ่ากันตาย ซึ่งคาดว่าอาจมีความขัดแย้งกันเรื่องกัญชาที่นำไปขาย ส่วนภรรยาผู้ตายได้เชิญตัวมาสอบถามแล้ว ไม่ทราบปมความขัดแย้ง อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการกู้ฮาร์ดดิสกล้องวงจรปิดที่มีการติดตั้งอยู่ภายในฟาร์มกัญชาดังกล่าว เนื่องจากผู้ต้องสงสัยได้ลบภาพทิ้ง จึงต้องส่งให้ผู้เชี่ยวชาญกู้ภาพคืนมา เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานในการเสนอต่อศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายจับต่อไป

ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สุรสิทธิ์ แท่นหรี พร้อมด้วย ร.ต.อ.พลากร ทองแก้ว รอง สวป.สภ.เมืองภูเก็ตได้นำกำลังสายตรวจไปตรวจสอบกระเป๋าต้องสงสัยถูกวางทิ้งไว้ภายในร้านสะดวกซื้อ สาขาถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (บายพาส) ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากพนักงานร้านโทรศัพท์แจ้ง 191 จากการตรวจสอบพบเป็นกระเป๋าหนังสีดำ ภายในกระเป๋ามีหนังสือเดินทางระบุชื่อ นาย ARTUR MKHITARIAN จำนวน 1 เล่ม ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว ชื่อนาย ARTUR MKHITARIAN บัตรประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ชื่อนาย ARTUR MKHITARIAN บ.กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) บัตรเครดิตจำนวน 4 ใบ เบื้องต้นคาดว่าเป็นของชายชาวต่างชาติที่ถูกฆาตกรรมในพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมือง จึงประสานพนักงานสอบสวน สภ.ฉลองนำกลับไปดำเนินการต่อ

ทั้งนี้จากแนวทางการสืบสวนพบว่า เมื่อช่วงเวลา 12.56 น.วันที่ 12 มี.ค.67 ผู้ต้องสงสัยชายชาวต่างชาติพร้อมแฟนสาวชาวไทยได้ขี่รถ จยย.ไปยังร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในพื้นที่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ตรอยต่อกับพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมือง ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ แต่ทางร้านไม่กล้ารับแลก เนื่องจากเป็นเงินยูโรจำนวนมาก คิดเป็นเงินไทยราว 1.5 ล้านบาท ประกอบกับหญิงไทยคนดังกล่าวมีท่าทางพิรุธ ขณะพูดคุยการแลกเงินกับทางร้านจะถ่ายคลิปจากโทรศัพท์มือถือตลอดเวลา โดยชายชาวต่างชาติถือซองกระดาษสีน้ำตาล แต่เมื่อทางร้านไม่รับแลก ทั้งคู่จึงได้เดินออกจากร้านไป จนทราบภายหลังว่ามีร้านรับแลกเงินสกุลยูโรจำนวนดังกล่าวและมีการโอนเงินบาทไทยเข้าบัญชีหญิงสาวชาวไทยในเวลาต่อมา จากนั้นได้มีการถอนเงินจำนวนดังกล่าวที่ธนาคารแห่งหนึ่งในตัวเมืองภูเก็ตออกไปทั้งหมด ก่อนที่ผู้ต้องสงสัยจะขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปยังสนามบินนานาชาติภูเก็ต เพื่อเดินทางออกนอกประเทศกลางดึกวันเดียวกัน (เวลา 21.38 น.12 มี.ค.67) ปลายทางอิสตัสบูล ประเทศตรุกี และมาพบศพนายอาเธอร์ถูกฆ่าตายในฟาร์มกัญชาดังกล่าวช่วงสายวันที่ 13 มี.ค.67 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเชิญตัวหญิงสาวชาวไทยที่ไปแลกเงินกับผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนแล้ว เบื้องต้นให้การว่าชายชาวต่างชาติคนดังกล่าวเป็นแฟนที่คบหากัน แต่บอกเพียงว่าต้องการแลกเงินกลับประเทศ จึงไปช่วยแลกเงิน แต่ไม่รู้ที่มาที่ไปของเงินจำนวนดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบไว้เป็นพยานแล้ว

Subscribe