ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็ก ได้รับผลกระทบ 2 ปีที่ผ่านมา ประกอบกับภาระหนี้สินทำให้บางรายถูกธนาคารฟ้องร้อง

อุปนายกสมาคมที่พักบูติกภูเก็ต เผยสถานการณ์การประกอบการของผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็ก ได้รับผลกระทบ 2 ปีที่ผ่านมา ประกอบกับภาระหนี้สินทำให้บางรายถูกธนาคารฟ้องร้อง โดยในพื้นที่ป่าตองเท่าที่ตรวจสอบขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการบังคับคดีร่วมๆ 200 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงาน ตลอดช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ภูเก็ต เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในพื้นที่ ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า หนึ่งในนั้นคือโรงแรมขนาดเล็ก หรือ โฮสเทล ซึ่งหลังจากที่สิ้นสุด ม.44 ไปเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 64 ขณะนี้ในความเป็นจริงโรงแรมขนาดเล็กยังเปิดไม่ได้ หากเปิดก็จะผิดกฎหมายทันที ซึ่งในปัจจุบันรัฐบาลก็ยังไม่มีข้อผ่อนปรน ให้โรงแรมขนาดเล็กเปิดบริการได้ รวมทั้งการที่ทางผู้ประกอบการ ได้มีการผลักดันในเรื่องของการแก้ไข พ.ร.บ.โรงแรม-กฎหมายอาคารสถานที่ นั้น ก็ยังไม่มีความคืบ และยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน จากทางรัฐบาล

นายชินวัฒน์ อุดมนิยม อุปนายกสมาคมที่พักบูติกภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์การประกอบการของผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็ก ว่า จากผลกระทบที่เกิดขึ้นค่อนข้างยาวนานในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ด้วยส่วนใหญ่มีสายป่านที่สั้นและเริ่มอ่อนแรง ประกอบกับภาระหนี้สินทำให้บางรายถูกธนาคารฟ้องร้อง โดยในพื้นที่ป่าตองเท่าที่ตรวจสอบขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการบังคับคดีร่วมๆ 200 ราย ซึ่งการจะกลับมาทำธุรกิจเหมือนเดิมเป็นเรื่องที่ยากมาก

“ส่วนใหญ่จะเจอปัญหาคล้ายๆ กัน คือ ในช่วงที่ปิดเมืองไม่มีรายได้ เพราะไม่มีผู้เข้าพัก จากสถานการณ์โควิด-19 และผู้ประกอบการไม่สามารถเข้าถึงมาตรการต่างๆ ที่รัฐช่วยเหลือได้แม้จะมีโครงการที่ดีมากๆ โดยเฉพาะโครงการพักทรัพย์พักหนี้ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการลดภาระและปลอดหนี้ชั่วคราว แต่ก็ติดหลักเกณฑ์สำคัญที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ คือ จะต้องมีใบอนุญาตโรงแรม และถือเป็นจุดอ่อนของผู้ประกอบการรายเล็กทุกราย ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการหารือกับทางหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด ล่าสุดก็มีการยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และได้รับแจ้งว่ามีการยื่นไปยังกระทรวงมหาดไทยแล้ว”

นายชินวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของผู้ประกอบการส่วนหนึ่งขณะนี้ถูกบังคับคดีและมีการประกาศขายไปแล้ว ในเดือนมิถุนายนนี้มีประมาณ 200 ราย และประกาศขายแล้ว 100 กว่าราย ทราบว่า มีกลุ่มทุนที่มารอช้อนซื้ออยู่จำนวนหนึ่งซึ่งไม่ใช่คนในพื้นที่ แม้ราคาที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบันลดลงจากเดิมถึง 70% เช่น ราคาประเมินของบังคับคดี 100 บาท จะขายในราคา 30 บาท เป็นต้น

ทางด้านนางสาวฐิตานันท์ (ขอสงวนนามสกุล) หนึ่งในผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กในพื้นที่ป่าตอง กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับทางธนาคารเพื่อขอจ่ายขั้นต่ำ แต่ยังไม่สามารถจ่ายเต็มได้ เพราะขณะนี้เริ่มจะดำเนินธุรกิจพอไปได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ค่อนข้างเครียดมากและไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน จึงอยากให้มีนโยบายจากทางธนาคารมาช่วยเพื่อยืดเวลาออกไปสักระยะ เพราะสถานการณ์พึ่งคลี่คลาย และไม่รู้ว่าจะฟื้นจริงหรือไม่ ส่วนเรื่องการเงินก็ยังไม่เหมือนเดิม ซึ่งเขาน่าจะเข้าใจในสถานการณ์ตรงจุดนี้ อย่างกรณีของบ้านพักอาศัยเช่นกันเมื่อมีการทำสัญญาใหม่ราคากระโดดขึ้นไปอีกเท่าตัว จากที่เหลือแค่ครึ่งเดียวซึ่งค่อนข้างหนักเหมือนกัน ไม่แน่ใจว่าจะจะช่วยจริงหรือเปล่า หรือจะฆ่าให้ตายกันแน่

Subscribe