ผู้ว่าฯ ภูเก็ต เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคง และสาธารณสุข หลังพบมีการลักลอบส่งสิ่งผิดกฎหมาย อาทิ ยาไอซ์ ยาเค ส่งให้กับผู้เข้ากักตัวในศูนย์ดูแลผู้ป่วยโควิดชุมชน หรือ CI และโรงพยาบาลสนาม
นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคง และสาธารณสุข หลังได้รับรายงานว่า มีการลักลอบส่งสิ่งผิดกฎหมาย อาทิ ยาไอซ์ ยาเค เป็นต้น ให้กับผู้เข้ากักตัวในศูนย์ดูแลผู้ป่วยโควิดชุมชน หรือ CI และโรงพยาบาลสนาม เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และหามาตรการเพิ่มเติมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ และเพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับเจ้าหน้าที่ประจำสถานกักกันผู้ป่วยในแต่ละจุด เนื่องจากส่วนใหญ่จะเป็นบุคลากรหญิง โดยมี พล.ต.ต.ศักดิ์ศิรา เผือกอ่ำ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, พล.ร.ต.วโรดม สุวารี รอง ผอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต (ท.), ว่าที่ร้อยตรีวิกรม จากที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ หลังจากนั้นได้มีการลงพื้นที่ยังโรงพยาบาลสนาม ศูนย์โควิด-19 ชุมชน และสถานที่กักในรูปแบบ Hospitel เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วย
นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ได้รับรายงานจากทางบุคลากรที่ประจำอยู่ที่โรงพยาบาลสนามว่ามีการตรวจพบการลักลอบสิ่งผิดกฎหมายให้กับผู้ป่วย นอกจากยาเคและยาไอซ์แล้ว ยังมีน้ำกระท่อมด้วย ซึ่งค่อนข้างน่ากังกล เนื่องจากผู้ดื่มน้ำกระท่อมบางครั้งไม่หลับไม่นอนเดินไปเดินมาตลอดเวลา ทางเจ้าหน้าที่เกรงจะเกิดความไม่ปลอดภัย เพราะส่วนใหญ่จะเป็นบุคลากรหญิง จึงอยากให้มีการจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล เพื่อสร้างความมั่นใจและขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานด้วย
ด้านนายณรงค์ วุ่นซิ้ว กล่าวว่า เพื่อเป็นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ในส่วนนี้จะได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกับทหารและตำรวจ เข้าไปช่วยดูแลความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการตรวจสอบสิ่งของที่มีการฝากไปให้ผู้ที่อยู่ในศูนย์โควิด-19ชุมชน หรือโรงพยาบาลสนาม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแอบลักลอบส่งสิ่งผิดกฎหมายเข้าไปอีก รวมถึงการจัดวางกำลังบริเวณโดยรอบสถานที่กักตัวต่างๆ และทำความเข้าใจกับผู้ที่ถูกกักตัวด้วย ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีผู้หลบหนีออกจากที่กักตัว จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีผู้หลบหนีแต่อย่างใด