พร้อมเต็มที่! “โบ๊ท ปิยะ สีดอกบวบ” รวมไทยสร้างชาติ ภูเก็ต เขต 1 “เข้าใจ เข้าถึง พึ่งได้” ตั้งใจเต็มร้อยทำเพื่อภูเก็ต
นายปิยะ สีดอกบวบ (โบ๊ท) เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลรัษฏา ได้เข้ายื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งกับ นายนครินทร์ ยอแสงรัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรัษฎา เพื่อลงสมัคร ส.ส.ภูเก็ต เขต 1 ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมี นายชาญณรงค์ ประทีป ณ ถลาง (สจ.มืด) นางนวลจันทร์ สามารถ คุ้มบ้าน (จ๊ะเหมีย) เป็นตัวแทนพรรครวมไทยสร้างชาติ สวมเสื้อพรรคให้ โดยมีพี่น้องประชาชน เดินทางมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ณ เทศบาลตำบลรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต
โดย นายปิยะ กล่าวว่า การตัดสินใจลาออกในครั้งนี้ เพื่อต้องการที่จะลงแข่งขันในสนามการเมืองใหญ่ เพราะคิดว่าจะสามารถทำประโยชน์ให้กับพี่น้องชาวภูเก็ตได้มากกว่านี้ และที่ผ่านมางานที่ได้รับมอบหมายในตำแหน่งเลขาฯ ก็ได้ทำเสร็จแล้ว และได้ฝากนายกฯ รวมถึง สท.ทุกคน ให้ช่วยกันดูแลชาวบ้าน แก้ปัญหาให้กับชาวบ้าน แต่ไม่ต้องห่วงทุกคนทำเต็มที่อยู่แล้ว และตนก็ไม่ได้ไปไหน จะยังคงให้ความช่วยเหลือชาวบ้านเหมือนเดิม ยังคงเรียกใช้ได้เหมือนเดิม แม้ว่าจะลาออกแล้วก็ตาม
ส่วนการลงมาเล่นการเมืองในสนามใหญ่นั้น ก็ตั้งใจเต็มที่ และตัดสินใจรวมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ เนื่องจากตนเป็น FC ของท่านนายกรัฐมนตรี อยู่แล้ว และเคยได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรค และเลขาพรรค ซึ่งตนเชื่อว่าบุคคลในพรรครวมไทยสร้างชาติ มีความมุ่งมั่นเหมือนกับตน คือ การช่วยเหลือชาวบ้าน และมีความต้องการที่จะพัฒนาภูเก็ต และประเทศไทย ซึ่งเป็นความคิดเห็นที่สอดคล้องกัน
นายปิยะ กล่าวต่อว่า สิ่งที่อยากจะนำเสนอเพื่อให้ได้รับการแก้ไขถ้าได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.มีหลายเรื่องด้วยกัน จากการลงพื้นที่พบปะกับชาวบ้านมาอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่เป็นปัญหาสำคัญของประชาชน คือ ปัญหาเรื่องของปากท้อง ที่ตอนนี้แม้ว่าการท่องเที่ยวจะดีขึ้น แต่ประชาชนก็ยังมีปัญหาในเรื่องนี้ นอกจากนั้นก็ยังมีปัญหาในเรื่องของการส่งเสริมการท่องเที่ยว ปัญหาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ปัญหาการจราจร น้ำประปา ไฟฟ้า สิ่งเหล่านี้ควรที่จะได้รับการแก้ไขและพัฒนาไปให้ถึงขีดสุด เพราะสิ่งเหล่านี้ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตยังตามไม่ทันกับคำว่าเมืองท่องเที่ยวระดับโลก
นายปิยะ ยังกล่าวอีกว่า การลงสู้ศึกสนามเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อว่าทุกคนที่ตัดสินใจลงสมัครต่างก็มีความมั่นใจทุกคน ส่วนตนก็มั่นใจเช่นเดียวกัน และที่สำคัญตนได้รับกำลังใจจากพี่น้องประชาชนที่เข้ามาให้กำลังใจตลอด และกำลังจากพี่น้องประชาชนก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาผลักดันให้ตนตัดสินใจลงสมัคร ส.ส.ในครั้งนี้ ที่ผ่านมาตนได้ลงพื้นที่ทำงานมากว่า 1 ปี แล้ว เรื่องของการช่วยเหลือชาวบ้านตนให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ มาโดยตลอด และมั่นใจว่าศักยภาพ ความสามารถ ของตนไม่ได้ด้อยกว่าคนอื่น ตนเป็นคนที่ “ เข้าใจ เข้าถึง พึ่งได้” และที่สำคัญตนพร้อมสู้อย่างเต็มที่
