ภูเก็ตหารือกงสุลใหญ่ และกงสุลกิตติมศักดิ์ ในพื้นที่กำหนดแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ในกลุ่มชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ย้ำทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัดผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ ห้องประชุมมุขหน้า ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต (หลังใหม่) ศูนย์ราชการจังหวัดภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผู้บริหารของจังหวัดภูเก็ต นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ประชุมร่วมกับกงสุล และกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ตนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การประชุมในวันนี้กงสุลใหญ่และกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำจังหวัดภูเก็ต จำนวน 8 ประเทศ ประกอบด้วย กงสุลใหญ่ออสเตรเลีย (Australia) กงสุลกิตติมศักดิ์ออสเตรีย (Austria) กงสุลกิตติมศักดิ์เม็กซิโก (Mexico) กงสุลกิตติมศักดิ์เนปาล (Nepal) กงสุลกิตติมศักดิ์เนเธอร์แลนด์ (Netherlands) กงสุลกิตติมศักดิ์นอร์เวย์ (Norway) กงสุลใหญ่ สหพันธรัฐ รัสเซีย ประจำจังหวัดภูเก็ต (Russia)  และกงสุลกิตติมศักดิ์สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) เข้าร่วมประชุม โดยจังหวัดภูเก็ตได้นำเสนอข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัดภูเก็ต รวมถึงมาตรการคุมเข้มการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กฎระเบียบสำหรับชาวต่างประเทศเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมไปถึงสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้กงสุลใหญ่และกงสุลกิตติมศักดิ์ได้รับทราบและนำข้อมูลดังกล่าวไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ชาวต่างชาติที่อาศัยในจังหวัดภูเก็ตได้รับทราบถึงมาตรการต่างๆ ในการที่ทางจังหวัดออกมาเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19นายณรงค์ กล่าวต่อไปว่า จังหวัดภูเก็ตได้ขอความร่วมมือกงสุลใหญ่และกงสุลกิตติมศักดิ์ ได้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์แนวทางมาตราการการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งหากการสอบสวนโรคของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตพบว่าชาวต่างชาติรายใดเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงสุด หรือหากผลการทดสอบพบว่าติดเชื้อโควิด-19 หรืออยู่ในกลุ่มที่เสี่ยง ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการเตรียมเข้ารับการรักษาตามสถานที่ที่สำนักงานสาธารณสุขกำหนดโดยเคร่งครัด ซึ่งมาตรฐานนี้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับประชาชนคนไทยที่พักอาศัยในจังหวัดภูเก็ต หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษทางกฎหมาย และมีผลต่อการพิจารณาอนุญาตให้อยู่ต่อในราชอาณาจักรและขอความร่วมมือของกงสุลใหญ่และกงสุลกิตติมศักดิ์ประชาสัมพันธ์ให้ชาวต่างชาติสวมหน้ากากอนามัย ตามคำสั่งของจังหวัดภูเก็ต หากผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับทั้งนี้ทางกงสุล และกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำจังหวัดภูเก็ต ได้เสนอขอให้จังหวัดจัดสรรโควตาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ต โดยขอระยะเวลาที่ชาวต่างชาติจะได้รับวัคซีนโควิด-19และขอให้จังหวัดภูเก็ตส่งข้อมูลกฎระเบียบของจังหวัดภูเก็ต ให้กงสุลอย่างรวดเร็ว ผ่านกลุ่ม Line เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการดึงข้อมูลไปใช้ในการประชาสัมพันธ์

Subscribe