เคลียร์ปัญหารัสเซียแห่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ – แย่งงานคนไทย
ที่ ห้องประชุม ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว , จัดหางาน , ขนส่ง , ฝ่ายปกครอง , กระทรวงการต่างประเทศ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต แถลงข่าว การบูรณาการกำลังตรวจสอบชาวต่างชาติ ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือได้กระทำผิดกฎหมายก่อเหตุที่เป็นภัยอันตราย ต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด ซึ่งอาจกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย รวมทั้ง กรณีมีกระแสข่าวชาวรัสเซียเข้ามากว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ภูเก็ตจนทำให้ราคาถีบตัวสูง และปัญหาการแย่งงานคนไทย
โดย พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยว ยอดนิยมของชาวต่างชาติ รวมถึงจังหวัดภูเก็ต จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานตำรวจในพื้นที่ บูรณาการกำลังตรวจสอบชาวต่างชาติ ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือได้กระทำผิดกฎหมายก่อเหตุที่เป็นภัยอันตราย ต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด ซึ่งอาจกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย
สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 จนถึงปัจจุบัน (31 สิงหาคม 2566) พบว่ามีสถิตินักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว เป็นกว่า 2,469,052 คน โดยจำนวนนี้ เป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติรัสเซียจำนวน 487,504 คน คิดเป็นร้อยละ 19.74 ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้ามาท่องเที่ยว ระยะสั้นๆ และเดินทางกลับ ในส่วนของนักท่องเที่ยวสัญชาติรัสเซียที่มีวีซ่าระยะยาวและพำนักอยู่ในจังหวัดภูเก็ตปัจจุบันมีจำนวน 9,275 คน คิดเป็นร้อยละ 1.9 โดยเมื่อวันที่ 6 ก.ย.66 ได้ปรากฏข่าวซึ่งเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดภูเก็ตในสื่อออนไลน์ ว่า “สื่อนอกตีข่าว ชาวภูเก็ตโวย รัสเซียแห่ทำธุรกิจยึดกิจการคนไทย” โดยเนื้อหาข่าวได้กล่าวถึง การกว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์ , การประกอบธุรกิจท่องเที่ยวหรือการขับรถรับจ้างผ่านแอพพลิเคชั่น , การทำงาน ที่ผิดกฎหมายและแย่งงานคนไทย , การแอบเข้ามากบดานของคนร้ายสัญชาติรัสเซีย ซึ่งรายละเอียดข้อมูลของประเด็นต่างๆ
ซึ่งจากการตรวจสอบการกระทำความผิด ของนักท่องเที่ยวจากสถิติการกระทำความผิดของคนต่างด้าว ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 จนถึงปัจจุบัน (31 สิงหาคม 2566) พบว่า มีคนต่างด้าวกระทำความผิดจำนวน 635 ราย ในจำนวนนี้ เป็นคนต่างด้าวสัญชาติรัสเซียจำนวน 78 ราย (คิดเป็นร้อยละ 12.28) โดยมีฐานความผิดที่เกี่ยวกับการทำงาน จำนวน 6 ราย ส่วนใหญ่เป็นความผิดเกี่ยวกับการจราจร พรบ.คนต่างด้าว และ คดีลักทรัพย์เล็กๆ
นอกจากนั้นจากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า ชาวรัสเซียที่เข้ามาพำนักในภูเก็ต ส่วนใหญ่จะพักอยู่ ฉลอง และราไวย์ ที่ผ่านมาทาง ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกับหน่วยงานในจังหวัดภูเก็ตดำเนินโครงการ “ที่พักสีขาวสำหรับชาวต่างชาติ(ปลอดอาชญากรรมและยาเสพติด) จังหวัดภูเก็ต” (Phuket Crime-Free) โดยให้เจ้าของที่พัก และประชาชนชาวภูเก็ต ร่วมกันสอดส่อง ชาวต่างชาติที่มาพักอาศัยในจังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินการกับชาวต่างชาติที่มีพฤติการณ์ไม่พึงประสงค์หรือมีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งได้รับความร่วมมือด้วยดีจากทุกภาคส่วน จนโครงการ ประสบผลสำเร็จ สามารถควบคุมและดำเนินการกับคนต่างด้าวที่กระทำความผิดอย่างเป็นรูปธรรม
ขณะที่ นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวชาวรัสเซียเข้ามากว้านซื้อคอนโดมิเนียมและที่พักในภูเก็ตจนเกลี้ยงเกาะว่า ภายหลัภายหลังจากที่ประเทศไทยเปิดประเทศมีนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่กลับเข้ามาอยู่ที่ประมาณ 70 – 80% ก่อนเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด โดยนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเข้ามาเป็นอันดับหนึ่งและเข้ามากว้านซื้ออสังหาในภูเก็ต จนทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้นนั้น โดยส่วนตัวมองว่าไม่น่าที่จะเป็นเพียงปัจจัยนี้ปัจจัยเดียว การเติบโตของอสังหาในภูเก็ตน่าจะเนื่องมาจากเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตที่ดีขึ้นจากที่นักท่องเที่ยวกลับเข้ามาและพื้นที่ที่มีการลงทุนเป็นที่น่าสนใจ
เพราะถ้าดูจากสถิตินักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่เข้ามาอยู่ในภูเก็ตระยะยาว มีเพียง 9,000 คนเท่านั้น ไม่น่าที่จะทำให้ราคาอสังหาฯสูงขึ้นได้มาก ถ้าทำได้ถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก เป็เป็นเรื่องของความต้องการที่อยู่อาศัยหลังจากที่การท่องเที่ยวเติบโต และจากการตรวจสอบข้อมูลกับสมาคมอสังหาจังหวัดภูเก็ต การถือคลองคอนโดมิเนียมของชาวต่างชาติไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นจากช่วงก่อนเกิดโควิดมากนักแต่ แต่อาจจะซื้อโดยใช้นอมินีก็ต้องมีบ้างแต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีมากจนทำให้ราคาสังหาขยับเพิ่มสูงขึ้นมากนัก
ส่วนการเข้ามาทำงานในภูเก็ตของชาวรัสเซียนั้น นายพิชิต สิงห์ทองคำ จัดหางานจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดที่ชาวรัสเซียเข้ามาขอใบอนุญาตทำงานกับทางจัดหางานจังหวัดภูเก็ตนั้นมีทั้งหมด 2,619 คน ซึ่งสำนักงานจัดงานได้มีนโยบายหลักเป็นมาตรการควบคุมและกำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำจะไม่ออกใบอนุญาตทำงานให้โดยเด็ดขาด ซึ่งปีที่ผ่านมามีการจับกุมในปี 2566 ไปทั้งหมด 20 คดี มีชาวรัสเซียเพียง 3 รายเท่านั้น
ด้านพล. ต.ต.เสริมพันธ์ สิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าว ปัญหาการก่ออาชญากรรมของชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีปัญหาอาชญากรรม ที่เกี่ยวกับชาวรัสเซีย ประมาณ 3 คดี ซึ่งเป็รคดีใหญๆ ทางตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหา และ ออกหมายจับในส่วนที่หลบหนีได้ทั้งหมด โดยส่วนใหญ่ผู้เสียหายกับผู้ต้องหาจะรู้จักกันมาก่อน และ มีการประกอบธุรกิจร่วมกันซึ่งยืนยันว่าในส่วนที่เป็นมาเฟียในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตไม่มีอย่างแน่นอน ส่วนคดีอื่นๆที่เกิดขึ้นเป็นคดีเล็กๆ ส่วนใหญ่เกี่ยวกับคดีลักเล็กขโมยน้อย
ส่วนพ.ต.อ. เอกชัย ศิริ รอง ผกก. 2 บก.ทท.3 ตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า การทำธุรกิจการท่องเที่ยวปัจจุบันมีอยู่ 15 บริษัท มีคนรัสเซียทึ่ทำงานในบริษัทดังกล่าวมีใบอนุญาตทำงานถูกต้องส่วนกรณีที่มีประเด็นการแย่งงานคนไทยนั่น เป็นส่วนบุคคล ที่ลักลอบทำงานเป็นไกด์นำเที่ยว
ทางด้านนายอัดชา บัวจันทร์ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่าชาวรัสเซีย ลักลอบขับรถรับส่งนักท่องเที่ยวผ่านแอปพลิเคชั่น ว่า จากการตรวจสอบยังไม่พบข้อมูลชาวรัสเซียเข้ามาประกอบอาชีพขับรถรับจ้าง แต่อย่างใด
