เคลียร์แล้ว! หลังสหกรณ์แท็กซี่เข้าใจ แท็กซี่ กทม. ผิด

คนร่วมอาชีพเดียวกันจับมือแยกย้าย เข้าใจผิด ไม่ติดใจกันแท็กซี่ภูเก็ต ด้าน ผกก.วิชิต เผยหากมีลักษณะเช่นนี้ให้แจ้งมายัง สภ.วิชิต

ตามที่ปรากฏในคลิปที่ลงไปสื่อสังคมออนไลน์ กรณีที่มีรถยนต์แท็กซี่ หมายเลขทะเบียน 1มข 6065 กรุงเทพมหานครเข้ารับผู้โดยสาร บริเวณห้างสรรพสินค้าฯ ซึ่งตามที่ปรากฎในคลิปขณะที่รถยนต์แท็กซี่ คันหมายเลขทะเบียน 1 มข 6065 กทม จอดตรงบริเวณจุดรับส่งผู้โดยสาร ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ใกล้กับจุดให้บริการของสหกรณ์บริการรถยนต์รับจ้างอันดามันภูเก็ต จำกัด ได้มีชายซึ่งทราบว่า เป็นประธานสหกรณ์ฯ พร้อมกับพวก เข้ามาสอบถามพูดคุยกับคนขับแท็กซี่ คันดังกล่าวและเปิดประตูรถยนต์แท็กซี่ ประตูหลังฝั่งคนนั่งขณะที่มีผู้โดยสารชาวต่างชาติอยู่ในรถยนต์แท็กซี่ ทำให้กลุ่มผู้ขับสหกรณ์แท็กซี่เกิดความเข้าใจผิดว่า รถยนต์แท็กซี่คันดังกล่าวปิดแผ่นป้ายทะเบียนเป็นแผ่นป้ายกรุงเทพมหานคร แล้วเหตุใดจึงมารับผู้โดยสารภายในบริเวณห้างสรรพสินค้าฯ ในจังหวัดภูเก็ตได้ จึงได้ไปสอบถามพูดคุย และบอกกับผู้ขับรถยนต์แท็กซี่คันหมายเลขทะเบียน 1 มข 6065 กทม ว่า รถป้ายกรุงเทพอย่ามาวิ่งและให้ผู้โดยสารลงจากรถ จากนั้นคนขับแท็กซี่คัน ก็ได้ขอโทษและเข้าใจตรงกันแล้วออกจากที่เกิดเหตุไปพร้อมกับผู้โดยสาร

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 วันนี้ (25มี.ค.) พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.วิชิต พร้อมด้วยพ.ต.ท.อนุรักษ์ ปริญญาสถิรกุล รองผกก.ป.สภ.วิชิต และ พ.ต.ท.อรรถวัฒน์ สุวรรณรัตน์ รองผกก.สส.สภ.วิชิต ได้ตรวจสอบผู้ขับขี่รถแท็กซี่คันดังกล่าว และรถได้จดทะเบียนประเภทรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสาร (ป้ายเหลือง) และผู้ขับขี่ได้ใบรับอนุญาตขับรถถูกต้องและตรวจสอบกลุ่มชายสมาชิกสหกรณ์บริการรถยนต์รับจ้างอันดามันภูเก็ต ที่ปรากฏในคลิป จำนวน 5 คน และคนถ่ายคลิป จำนวน 1 คน รวม 6 คน จึงได้เชิญบุคคลทั้งหมดมาสอบปากคำจากเหตุการณ์ตามคลิปที่ปรากฏ

โดยผู้ขับขี่แท็กซี่ ให้การว่า ประกอบอาชีพขับแท็กซี่ใน กทม. และได้เดินทางมาบ้านภรรยาที่ภูเก็ต ต่อมาในวันเกิดเหตุได้ใช้แอฟพลิเคชั่นอินไดฟ์เวอร์ รับผู้โดยสารสัญชาติโรมาเนียจากเซ็นทรัลภูเก็ตเพื่อไปส่งที่พื้นที่ป่าตอง โดยได้กดมิเตอร์ตามระเบียบแล้ว ส่วนกลุ่มคิวรถรับจ้างกับพวก เข้าใจว่า รถแท็กซี่รับจ้างป้ายทะเบียน กทม. ไม่สามารถมารับผู้โดยสารในเขตจังหวัดภูเก็ตได้ จึงได้เรียกเพื่อสอบถามและมีเจตนาเพียงจะตกลงทำความเข้าใจกันเท่านั้น ซึ่งผู้ขับขี่แท็กซี่ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งตนและผู้โดยสารไม่ได้ถูกข่มขู่จนเกิดความหวาดกลัวแต่อย่างใด จึงไม่ติดใจเอาความใดๆ กับฝ่ายคู่กรณี

ซึ่งพนักงานสอบสวนได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของกลุ่มคิวรถรับจ้างไม่ได้มีเจตนากักขังหน่วงหนี่ยว หรือข่มขู่ให้ผู้ขับี่แท็กซี่และผู้โดยสารเกิดความหวาดกลัว หรือได้รับความเสียหายแต่อย่างใดแต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่ติดใจเอาความใดๆ อีกด้วย จึงยังไม่พบว่าทั้งสองฝ่ายได้มีการกระทำความผิดอาญา เมื่อทั้งสองฝ่ายได้ทำความเข้าใจและปรับความเข้าใจกันดีแล้ว จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และได้มีการจับมือกันก่อนที่จะแยกย้ายไป

หลังจากนั้น ผกก.สภ.วิชิต ได้กำชับประธานฯกับพวก รวมถึงกลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่สหกรณ์บริการรถยนต์รับจ้างอันดามันภูเก็ต จำกัด ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก โดยหากพบเหตุการณ์ลักษณะนี้ให้แจ้งสถานีตำรวจท้องที่ เพื่อเข้าไปแก้ไขปัญหา ซึ่งประธานฯกับพวก ก็รับปากตามที่ ผกก.สภ.วิชิต กำชับ โดยหลังจากนี้จะได้รายงานพฤติการณ์ของประธานกับพวก ไปยังขนส่งจังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

Subscribe