เอกชนภูเก็ตเสนอรัฐปรับลดเงื่อนไขเดินทางเข้าประเทศ

เอกชนภูเก็ตเสนอรัฐปรับลดเงื่อนไขเดินทางเข้าประเทศ ทั้งการขอ COE ปรับลดวงเงินประกัน เลิกกักตัวกลุ่มสัมผัสบนเครื่องบิน และตรวจโควิด-19 ครั้งที่ 2 ด้วย ATK เชื่อหากทำได้นักท่องเที่ยวเพิ่มวันละ 1 หมื่นคนแน่นอน ทำให้เศรษฐกิจภูเก็ตขับเคลื่อนได้ เผยปลายปีนี้เมืองคู่แข่งทางการท่องเที่ยวเตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกหลายเมือง

นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงก้าวต่อไปของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ว่า โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เป็นการเปิดเกาะภูเก็ตต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัวเป็นพื้นที่แรกพื้นที่นำร่องของประเทศมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา มาถึงวันนี้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เดินทางมากว่า 100 วัน ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามานั้นไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เข้ามาเพียง 4 หมื่นกว่าคนเท่านั้น จากหลายปัญหาทั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ในต่างประเทศ รวมไปถึงปัญหาและเงื่อนไขเดินทางเข้าประเทศที่ยังไม่เอื้ออำนวยในมากนัก

จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในช่วง 3 เดือนแรก ถือว่ายังน้อยมาก วันละประมาณ 400 กว่าคนเท่านั้น คิดเป็น 1% ของฐานนักท่องเที่ยวเดิมที่เข้ามาภูเก็ต จึงทำให้รายได้ที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยวในช่วงดังกล่าวไม่เพียงพอที่จะกระจายไปยังทุกกลุ่มอาชีพในภูเก็ต เศรษฐกิจของภูเก็ตไม่สามารถที่จะขับเคลื่อนได้ภายใต้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเพียง 1%

ดังนั้น ภาคเอกชน โดยสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้ยื่นข้อเสนอไปยังรัฐบาล 4 ข้อด้วยกัน เพื่อขอปรับลดเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศที่สะดวกมากยิ่งขึ้น แม้ว่าทางรัฐบาลจะมีการปรับลดเงื่อนไขไปบ้างแล้วก็ตาม เช่น ปรับลดวันพักในภูเก็ตจาก 14 วัน ให้เหลือ 7 วัน ซึ่งมีผลทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้นก็จริง แต่คิดว่ายังไม่เพียงพอ ยังมีอีกหลายเงื่อนไขที่ทางภาคเอกชนมองว่าจะต้องได้รับการแก้ไขและคิดว่าถ้าเงื่อนไขเหล่านี้ได้รับการแก้ไขจะทำให้นักท่องเที่ยวเข้าภูเก็ตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในเรื่องการขอ COE ที่จะต้องสะดวกขึ้น โดยเรื่องนี้เท่าที่ทราบขณะนี้รัฐบาลกำลังปรับเปลี่ยนการยื่นขอหนังสืออนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศไทยที่จะปรับไปใช้ Thailand Plus ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวสะดวกมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังอยากจะให้รัฐบาลปรับลดวงเงินประกันสุขภาพที่กำหนดไว้ 100,000 สหรัฐ ให้ลดลงมาอีก รวมไปถึงในเรื่องของการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่จะต้องดำเนินการ 2 ครั้ง ด้วยวิธี RT-PCR ให้การตรวจครั้งที่ 2 ด้วยวิธี ATK แทน เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้นักท่องเที่ยวและวิธี ATK เป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย และสำคัญอีกเงื่อนไขหนึ่ง คือ ยกเลิกการกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงบนเครื่องบินที่นั่งใกล้กับผู้ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อ ซึ่งที่ผ่านมาไม่พบว่าผู้ที่นั่งใกล้กับผู้ติดเชื้อบนเครื่องบินติดเชื้อแต่อย่างใด ซึ่งกลุ่มนี้จะต้องถูกกักตัว 14 วัน เมื่อมาถึงภูเก็ตในโรงแรม ALQ และจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการกักตัว

“เชื่อว่าหากปัญหาทั้งหมดได้รับการแก้ไข นักท่องเที่ยวจะเข้าภูเก็ตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งทางสมาคมฯ ได้ตั้งตัวเลขที่ท้าทายไว้วันละ 10,000 คน หรือประมาณ 20-25% ของฐานเดิมก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด รวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่เข้ามามีวันพักในภูเก็ตเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยถึง 11 คืน ทำให้มีการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาวันละ 10,000 คนนั้นจะทำให้เศรษฐกิจของภูเก็ตขับเคลื่อนต่อไปได้ และรายได้จะได้กระจายไปถึงกลุ่มอาชีพต่างๆ อย่างทั่วถึง” นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวและว่า

จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในขณะนี้วันละ 400 กว่าคน สูงสุดเมื่อวันที่ 8 ที่ผ่านมา 800 คน คิดเป็น 1% ของฐานเดิม เศรษฐกิจภูเก็ตไม่สามารถที่จะขับเคลื่อนได้ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวเพียงแค่นี้

นายภูมิกิตติ์ กล่าวต่อว่า การปรับลดเงื่อนไขการเดินทางที่สะดวกขึ้นภายใต้การควบคุมการแพร่ระบาด เป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องเร่งดำเนินการ เพราะเชื่อว่าในช่วงเดือน พ.ย.นี้ จะมีอีกหลายเมืองที่เป็นเมืองท่องเที่ยวและเป็นคู่แข่งกับภูเก็ตจะเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเหมือนกับที่ภูเก็ตกำลังทำอยู่ในขณะนี้ และเชื่อว่าหากเมืองเหล่านั้นเปิดเมืองภายใต้เงื่อนไขการเดินทางที่สะดวกกว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนจุดหมายปลายทางไปยังเมืองอื่นๆ ได้ เพราะนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในช่วงนี้มีเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นและไม่จำกัดด้วย จุดนี้ขึ้นอยู่กับประเทศไทยเราว่าจะมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขได้รวดเร็วและตอบโจทย์การเดินทางของนักท่องเที่ยวได้มากน้อยแค่ไหน

Subscribe