มท.1 เปิดกิจกรรม “มหาดไทย มอบความสุข คืนชายหาดเลพัง ให้ชาวภูเก็ต”

มท.1 เปิดกิจกรรม “มหาดไทย มอบความสุข คืนชายหาดเลพัง ให้ชาวภูเก็ต” เน้นย้ำ ชาวมหาดไทย และชาวดิน จะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชน และพร้อมจะปกป้อง พิทักษ์สิทธิ์ และรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน

วันนี้ (9 พ.ค. 67) เวลา 16.00 น. ณ บริเวณชายหาดเลพัง ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดกิจกรรม “มหาดไทย มอบความสุข คืนชายหาดเลพัง ให้ชาวภูเก็ต” ประกาศสงวนหวงห้ามที่ดินเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยมี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ ประธานคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายธีรยุทธ สำราญทรัพย์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้บริหารกรมที่ดิน หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีฯ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ต ที่จะได้ใช้ประโยชน์ในชายหาดเลพังร่วมกัน แม้จะเป็นงานที่ยากและต้องแก้ไขปัญหาต่าง ๆ มากมาย เพื่อขับเคลื่อนผลักดันกระบวนการที่จะรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ และยังเป็นภารกิจสำคัญที่กระทรวงมหาดไทยเราดำเนินการเพื่อ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ซึ่งการจัดการเอกสารสิทธิในที่ดินเป็นความสำคัญลำดับต้น ๆ ของกรมที่ดินที่ต้องเร่งพิจารณา “ทำสิ่งถูกต้อง กำจัดสิ่งที่ผิด” ออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินให้รวดเร็วและถูกต้อง ยึดหลักสุจริต ตลอดจนฐานข้อมูลด้านที่ดินจะต้องได้รับการปรับปรุงอยู่เสมอ เพื่อเอื้อต่อการจัดที่ดินทำกินให้กับประชาชน ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือภารกิจสำคัญของกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ในการดูแลพี่น้องประชาชนดูแลสิทธิและประโยชน์เพื่อไม่ให้ได้รับความเดือดร้อน ไม่ให้สิ่งไม่ดีเกิดขึ้นในการทำงานภายใต้ความรับผิดชอบของข้าราชการกระทรวงมหาดไทย

นายอนุทินฯ กล่าวต่ออีกว่า จังหวัดภูเก็ตถือเป็นประตูบานแรกในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ และหาดเลพังเป็นหนึ่งในหาดที่มีความสงบและสวยงามมากแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต โดยหลักการดูแลนักท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ การสร้าง “ความปลอดภัย ความสะดวก และแรงดึงดูด” เพื่อทำให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาเยือนเพิ่มมากขึ้น อันจะเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างโอกาส และสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน จึงต้องส่งเสริมให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วางแผนการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว โดยบูรณาการจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ เพื่อจัดระเบียบพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว จัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ให้มีความสุข

“สำหรับชายหาดเลพัง 172 ไร่นี้ ถือเป็นสมบัติของพี่น้องชาวภูเก็ตทุกคน แต่ด้วยความหละหลวมของกฎระเบียบทำให้มีผู้ที่เห็นแก่ตัวพยายามอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของชายหาดแห่งนี้ ซึ่งพี่น้องประชาชนต้องต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมมากถึง 20 ปี ตนจึงขอให้สถานแห่งนี้เป็นที่สุดท้ายของการกระทำลักษณะดังกล่าว โดยตนได้เน้นย้ำมาเสมอว่ากรมที่ดินมีศักยภาพ ที่จะทำหน้าที่ในการปกป้องที่ดินทั้งของรัฐและของประชาชน ตนขอให้ความมั่นใจได้ว่า ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย และกรมที่ดินจะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชน และพร้อมจะปกป้อง พิทักษ์สิทธิ์ และรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน” นายอนุทินฯ กล่าวเพิ่มเติม

ด้านนายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า บริเวณหาดเลพัง หมู่ที่ 4และหมู่ที่ 6 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลแจ้งความประสงค์ต่อนายอำเภอถลาง ขอสงวนที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่รกร้างว่างเปล่าเพื่อให้เป็นที่สาธารณประโยชน์สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ซึ่งอำเภอได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้วปรากฏว่า ที่ดินที่ขอสงวนเป็นที่รกร้างว่างเปล่า มีต้นสนทะเลขึ้นตลอดแนว และในระวางรูปถ่ายทางอากาศที่ถ่ายไว้เมื่อปี พ.ศ. 2521 ไม่ปรากฏร่องรอยการทำประโยชน์ในที่ดินแต่อย่างใดอำเภอถลางเห็นว่าการสงวนที่ดิน บริเวณดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนเพื่อรักษาที่ดินไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ใช้ประโยชน์ หากปล่อยปละละเลยให้มีการบุกรุกเข้ายึดถือครอบครองจะเป็นเหตุให้ ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าใช้ประโยชน์ที่ชายหาดได้ ต่อมาปี พ.ศ. 2545 จังหวัดภูเก็ตเห็นชอบให้อำเภอถลาง ดำเนินการสงวนหวงห้ามเพื่อให้พลเมืองใช้ร่วมกัน โดยให้ดำเนินการตามระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2529) ต่อมาอำเภอถลางได้มีประกาศลงวันที่ 16 มิถุนายน 2546 เรื่อง ที่ดินที่จะสงวน หรือหวงห้ามเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันให้ประชาชนทั่วไปทราบทั่วกัน โดยแสดงขอบเขตที่ดินที่จะ สงวนเนื้อที่ประมาณ 178 ไร่ ปรากฏว่ามีผู้คัดค้าน จำนวน 9 ราย (ไปใช้สิทธิทางศาล จำนวน 7 ราย)ไม่ไปใช้สิทธิทางศาล จำนวน 2 ราย) ซึ่งทั้งศาลฎีกาและศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษาแล้วว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินของรัฐเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทที่ดินรกร้างว่างเปล่าในปี 2565 องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เห็นสมควรสงวนหวงห้ามที่ดินบริเวณชายหาดเลพัง หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 6 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เนื้อที่ 172-3-18 ไร่

“ทั้งนี้กรมที่ดิน พิจารณาแล้วเห็นสมควรสงวนหวงห้ามที่ดินบริเวณชายหาดเลพัง หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 6 ตำบลเชิงทะเลอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เนื้อที่ 172-3-18 ไร่ เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน จึงได้เสนอคณะกรรมการจัดที่ดินพิจารณาโดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบการสงวนหวงห้ามที่ดินเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันบริเวณชายหาดเลพังตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เนื้อที่ 172-3-18 ไร่ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการจัดที่ดิน เรื่อง การสงวนหวงห้ามที่ดินของรัฐเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน วันที่ 17 เมษายน 2567 มีผลทำให้ที่ดินดังกล่าวเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินที่พลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน” นายพรพจน์ฯ กล่าวในช่วงท้าย

Subscribe