เจอจับดำเนินคดี ตม.จว.ภูเก็ต จับกุมชายชาวรัสเซียแอบลักลอบอาศัยอยู่ในประเทศเกิน 351 วัน
ชุดสืบสวน ตม.จว.ภูเก็ต จับกุม MR.SERGEY อายุ 46 ปี ชาย ขาวรัสเซีย ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ( อยู่เกินฯ 351 วัน )”
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 16.30 น. บริเวณ ริมถนนสาธารณะหมู่บ้านสุพิชฌาย์ ชิโน เกาะแก้ว ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต
พฤติการณ์และการกระทำของผู้ถูกจับ กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ได้รับแจ้งจากสายลับว่า MR.SERGEY สัญชาติรัสเซีย เป็นบุคคลเป้าหมายที่อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดตามบัญชี จึงได้ออกตรวจ สืบสวนหาข่าวในพื้นที่รับผิดชอบ
ต่อมาเวลาประมาณ 16.30 น. ได้ออกตรวจมาจนถึงบริเวณที่เกิดเหตุข้างต้น พบบุคคลต่างชาติซึ่งมีลักษณะตรงตามกับที่ได้รับแจ้งจากสายลับเดินอยู่ริมถนนสาธารณะภายในหมู่บ้านสุพิชฌาย์ ชิโน เกาะแก้ว (ที่เกิดเหตุ) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต และขอทำการตรวจเอกสารหนังสือเดินทาง จากการสอบถามทราบชื่อว่าคือ MR.SERGEY สัญชาติรัสเซีย ซึ่งเป็นบุคคลเป้าหมายจริง และเมื่อขอตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทาง MR.SERGEY อ้างว่าไม่ได้นำติดตัวมาแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ดูได้ ซึ่งในขณะที่สอบถาม MR.SERGEY ได้วิ่งชนเจ้าหน้าที่ฯ เพื่อวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้วิ่งติดตาม และควบคุมตัว แต่ MR.SERGEY ได้ขัดขืนการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่จนทำให้ MR.SERGEY มีบาดแผลถลอกบริเวณ หัวเข่าทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ,บริเวณแขนซ้ายและแขนขวา และบริเวณส้นเท้าด้านซ้าย ในระหว่างที่ทำการควบคุมตัว
.
จากการตรวจสอบข้อมูลในระบบสารสนเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพบว่า MR.SERGEY เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อ วันที่ 24 กันยายน 2562 ผ่านด่านตม. ท่าอากาศยานภูเก็ต ได้รับการตรวจลงตราประเภท คนอยู่ชั่วคราว (NON 90 วัน) ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 16 เมษายน 2566 หลังจากการอนุญาตสิ้นสุดไม่พบข้อมูลการเดินทางออกนอกราชอาณาจักรอยู่เรื่อยมาจนถึงวันนี้ ( 1 เมษายน 2567 )
เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้กับผู้ถูกจับ ทราบว่า เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ( อยู่เกินฯ 351 วัน ) พร้อมทั้งได้แจ้งสิทธิให้ผู้ต้องหาได้ทราบแล้ว และได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับผุ้ถูกจับแล้ว จึงได้ทำบันทึกจับกุม ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป