ธนกรลงพื้นที่ชุมชนย่านเมืองเก่าเพื่อแนะนำตัวผู้สมัครและพรรครวมไทยสร้างชาติ

ธนกรลงพื้นที่ชุมชนย่านเมืองเก่าเพื่อแนะนำตัวผู้สมัครและพรรครวมไทยสร้างชาติ นโยบายของพรรคฯ ท่ามกลางการต้อนรับจากประชาชนในพื้นที่

พรรครวมไทยสร้างชาติ นำโดย นายธนกร วังบุญคงชนะ ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ และประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ พร้อมด้วย นายปิยะ สีดอกบวบ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดภูเก็ต เขต 1 หมายเลข 8, นางนวลจันทร์ สามารถ ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 หมายเลข 3 และทีมงาน ลงพื้นที่พบประชาชนชาวภูเก็ต และผู้ประกอบการร้านค้าย่านเมืองเก่า ถนนถลาง เพื่อสอบถามถึงสภาวะเศรษฐกิจ การค้าขาย และสถานการณ์การท่องเที่ยวในปัจจุบัน พร้อมทั้งแนะนำตัวและนโยบายของพรรคฯ ท่ามกลางการต้อนรับจากประชาชนในพื้นที่ ในการลงพื้นที่ครั้งนี้

นายธนกร วังบุญคงชนะ กล่าวว่า ก่อนจะลงพื้นที่มาช่วยผู้สมัครฯ ที่ภูเก็ต ได้แจ้งให้พลเอกประยุทธ์ฯ ทราบ และได้ฝากให้กำลังใจผู้สมัครฯ ที่ภูเก็ตทุกคนว่าให้เดินหน้าขอคะแนนจากพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ด้วยเวลาที่เหลืออยู่ ซึ่งตนเชื่อว่าคนพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.ภูเก็ต รักพลเอกประยุทธ์ฯ หรือลุงตู่ เพราะมีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ประจักษ์ และยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และพี่น้องประชาชน ที่สำคัญที่ผ่านมามีผลงานเป็นที่ชัดเจน และเป็นที่ประจักษ์ ตลอดระยะเวลา 7 -8 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวหรือการฟื้นเศรษฐกิจซึ่งทำได้ดี ฉะนั้นเมื่อมาอยู่รวมไทยสร้าง ก็ต้องทำแล้ว ทำอยู่และทำต่อ

“เชื่อว่าพี่น้องประชาชนจะให้โอกาสผู้สมัครของพรรครวมไทยสร้างชาติทั้งแบบเขตและบัญชีรายชื่อ เพื่อสนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์ฯ เป็นรัฐมนตรีอีกครั้ง เพราะเรามีนโยบายที่ชัดเจน โดยเฉพาะในพื้นที่ภูเก็ตซึ่งได้สนับสนุนโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์จนประสบความสำเร็จ และเปิดการท่องเที่ยวเป็นประเทศแรกในภูมิภาค จนสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศเป็นจำนวนมาก โดยในปี 2566 มีการตั้งเป้านักท่องเที่ยวไว้ 27.5 ล้านคนซึ่งคาดว่าจะมีเงินเข้าประเทศประมาณ 2.3 ล้านล้านบาท ซึ่งการท่องเที่ยวถือเป็นรายได้หลักของประเทศ นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาได้สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ มาลงในพื้นที่ภูเก็ตเต็มรูปแบบมาก เพื่อรองรับการท่องเที่ยว”

นายธนกร กล่าวว่า ด้วยนโยบายหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นบัตรสวัสดิการพลัส 1,000 บาทต่อเดือน, กู้ฉุกเฉิน 10,000 บาท, กองทุนฉุกเฉินประชาชน 30,000 ล้านบาท การดูแลพี่น้องอสม. 2,000 บาท เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 1,000 บาท เป็นต้น จะทำให้คนไทยทั้งประเทศเทคะแนนให้พลเอกประยุทธ์ฯ ขอให้พี่น้องประชาชนเลือกทั้งคนและพรรค เพื่อจะได้พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีฯ และสำหรับภูเก็ตก็ขอให้เลือกผู้สมัครทั้ง3 เขต ยกทีม เชื่อว่าผู้สมัครทั้งหมดล้วนเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และมีศักยภาพ อยู่ใกล้ชิดพี่น้องประชาชน รวมทั้งยังมีการลงพื้นที่มาตลอด ส่วนนโยบายในการพัฒนาภูเก็ตนั้น มีทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน ซึ่งพลเอกประยุทธ์ฯ จะทำต่อในสิ่งที่ทำไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่อง เช่น สนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดงานภูเก็ตเอ็กโปร์ 2028 และเชื่อมั่นว่าสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการมา หากได้เป็นเจ้าภาพจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก และจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศนับหมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม นายธนกร กล่าวว่า ขณะนี้ไม่ได้มีความกังวลใดๆ ยิ่งมีการลงพื้นที่และมีการปราศรัย จากการดูแววตาพี่น้องประชาชน เพราะนโยบายของรวมไทยสร้างชาติไม่ใช่นโยบายประชานิยมแบบสุดโต่ง ไม่ใช่นโยบายขายฝัน เพราะเราทำได้จริงหมด ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งทำมาตั้งแต่ปี 59 มีการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ มีการวางระบบไว้หมดแล้ว

ส่วนของการดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาเลือกพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น นายธนกร กล่าวว่า คนรุ่นใหม่ที่ยึดมั่นในชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ก็มีจำนวนมาก ส่วนคนรุ่นใหม่ที่มองอีกแบบก็อยากให้ทบทวน และอยากให้ทั้งคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงประชาชน เชื่อว่าวันนี้คนทุกรุ่นสำคัญหมด ต้องมีการผสมผสาน มีการพัฒนาเป็นพลวัตร ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยแบบไทยไทย ฉะนั้นคนทุกรุ่นย่อมมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ

Subscribe