ผวจ.เผยเตรียมถอดบทเรียนหลังเกิดเหตุเรือสปีดโบ๊ทชน

ผวจ.เผยเตรียมถอดบทเรียนหลังเกิดเหตุเรือสปีดโบ๊ทชน

ความคืบหน้าของเหตุการณ์เรือสปีดโบ๊ทนำเที่ยว ชื่อ ธนาธิปมารีน 555 ชนเสาตอม่อเสาส่งสัญญาณไฟนำร่องห่างจากสะพานท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ประมาณ 700 เมตร ซึ่ง นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว, พลตำรวจตรีเสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, น.พ.วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต , นางรัชดาภรณ์ โออิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการประชุมสรุปสถานการณ์และแถลงถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้ประสบภัย จำนวน 37 ราย ในจำนวนดังกล่าว เป็นคนไทย 4 ราย ส่วนที่เหลือเป็นชาวต่างชาติ ได้แก่ รัสเซีย มากที่สุด รองลงมาคาซัคสถาน, ฮ่องกง, จีน และยูเครน โดยเป็นผู้ป่วยระดับสีขาว 2 ราย สีเขียว 13 ราย ,สีเหลือง 16 รายและสีแดง 6 ราย รักษาอยู่ในโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต 10 ราย โรงพยาบาลฉลอง 9 รายโรงพยาบาลดีบุก 2 รายโรงพยาบาลสิริโรจน์ 5 รายโรงพยาบาลกรุงเทพ 2 รายโรงพยาบาลมิชชั่น 5 ราย และโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต 2 ราย ภายหลังเกิดเหตุทางศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้มีการประสานกับทางกงสุลแต่ละประเทศเพื่อทราบแล้ว นอกจากนี้ในส่วนของค่ารักษาพยายาบาลนั้น ทางบริษัทฯ ได้ทำประกันไว้ จึงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

พญ.ศุภลักษณ์ ละอองเพชร รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวถึงอาการผู้บาดเจ็บว่า ในจำนวนผู้ประสบเหตุ 37 คน เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 33 คน และคนไทย 4 คน ในจำนวนนี้มีผู้ไม่ได้รับบาดเจ็บ 2 คน เป็น คนไทย 1 คน และชาวคาซัคฐาน 1 คน ส่วนของผู้บาดเจ็บจำนวน 35 คน หากแบ่งประเภทตามความรุนแรง พบว่า สีแดง 6 คน สีเหลือง 16 และสีเขียว 13 คน ทั้งนี้ไม่มีผู้บาดเจ็บรายใดอาการหนักจนต้องส่งเครื่องช่วยหายใจ โดยถูกนำส่งใน 7 โรงพยาบาลของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งผู้บาดเจ็บสีแดง 6 คน ได้แก่ ลูกเรือคนไทย มีภาวะในเรื่องของกระดูกซี่โครงหัก บาดเจ็บสมองและต้องใช้ท่อระบายเลือดในช่องอก ยังคงอยู่ในช่วงที่เฝ้าระวัง,ชายชาวรัสเซีย กระดูกซี่โครงหัก , หญิงชาวรัสเซีย อายุ 30 ปี มีกระดูกหักแบบเปิด และมีเส้นเลือดได้รับอันตราย, หญิงชาวรัสเซียอายุ 32 ปี ได้รับการกระแทกที่ช่องท้องและมีเลือดออกในช่องท้อง, ชายไทย ได้รับบาดเจ็บกระดูต้นขาหัก และชาวรัสเซีย ซึ่งยังไม่มีข้อมูล

ขณะที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวเสริมว่า สำหรับผู้บาดเจ็วทั้งหมด เบื้องต้นยังไม่มีผู้ใดต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ไม่มีอาการช๊อค และอาการวิกฤต ส่วนของผู้ที่เป็นสีแดง คือ มีลมรั่วในปอด มีเลือดออกในช่องอก กระดูกซี่โครงหัก กระดูต้นหาหัก และมีเส้นเลือกฉีดขาด ถือว่ายังไม่อยู่ในภาวะวิกฤต แต่ยังต้องอยู้ในความดูแลของแพทย์

ทางด้าน พลตำรวจตรีเสริมพันธ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการเกิดอุบัติเหตุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการสอบปากคำผู้ใด เนื่องจากให้ความสำคัญในเรื่องของการดูแลอาการของผู้ประสบเหตุก่อน แต่ทั้งนี้ก็จะต้องมีการสอบปากคำผู้ที่อยู่บนเรือทั้งหมด เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ เบื้องต้นได้มีการตรวจสอบสารพเสพติดในเลือดของกัปตันเรือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ทราบผล ทั้งหมดจะมีการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ทั้งนี้จะได้มีการประสานกับตำรวจท่องเที่ยวเพื่อขอรายชื่อและที่พักของนักท่องเที่ยวที่อยู่บนเรือ รวมถึงประสานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อขอทราบการเดินทางกลับของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เพื่อจะได้มีการเข้าไปสอบปากคำไว้ก่อน ซึ่งในส่วนของความผิดต่างๆนั้น จะมีการดำเนินการโดยเคร่งครัดทุกเรื่อง รวมถึงการตรวจสอบใบอนุญาตใช้เรือ คนเรือและเด็กเรือ โดยจะดำเนินการทุกมิติ

อย่างไรก็ตาม นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการถอดบทเรียนที่เกิดขึ้น และจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมร่วมกัน ว่าจะมีมาตรการอย่างไรกรณีที่มีการนำเรือออกจากฝั่ง แต่ทั้งนี้คงต้องให้ทราบสาเหตุก่อนว่าเกิดจากอะไร เรื่องใดที่เป็นจุดอ่อนหรือข้อบกพร่องจะได้ทำการแก้ไขต่อไป ก่อนหน้านี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการที่ดูแลรับผิดชอบอุบัติภัยทางน้ำไว้แล้ว

Subscribe