ผู้ประกอบการโรงแรมภูเก็ตยังไปต่อไม่ได้

ผู้ประกอบการโรงแรมภูเก็ตยังไปต่อไม่ได้! มหาดไทยปลดล๊อคกฎหมายโรงแรมแล้วแต่ยังติดประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ณ รัฐสภา สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเข้ายื่นหนังสือที่รัฐสภา ขอปลดล็อคประกาศสิ่งแวดล้อมต่อประธานคณะกรรมมาธิการบริหารราชการแผ่นดินวุฒิสภาชี้แจงข้อติดขัดบริบทจังหวัดภูเก็ต สืบเนื่องด้วย พลเอก อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมมาธิการบริหารราชการแผ่นดินวุฒิสภา ได้แต่งตั้ง พลเอก บุญธรรม โอริส เป็นประธานคณะทำงานพิจารณาศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาการประกอบธุรกิจให้เช่าที่พักแบบรายวัน เมื่อปี พ.ศ.2564 โดยมี นายมโนสิทธิ์ แจ้งจบ เป็นคณะกรรมการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งได้ปลดล๊อคข้อกฎหมาย กฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับที่4 ) พ.ศ.2566 แต่เมื่อผู้ประกอบการได้ทยอยยื่นขอใบอนุญาตโรงแรมกลับเจอข้อปัญหาติดขัดเฉพาะพื้นที่บริบทจังหวัดภูเก็ต เกี่ยวโยงกับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่ และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งสมาคมที่พักบูติกภูเก็ตได้ยื่นหนังสือแก่นายกรัฐมนตรี ขณะลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ.2566 เพื่อรับฟังปัญหาผู้ประกอบการท่องเที่ยว พร้อมกันนี้ทางสมาคมได้ทำหนังสือถึงประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อแจ้งปัญหาความเดือดร้อนในการประกอบอาชีพของผู้ประกอบการโรงแรมข้างต้น

นายมโนสิทธิ์ แจ้งจบ ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนโรงแรมขนาดเล็ก สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงได้นำปัญหาดังกล่าวเข้าหารือต่อ พลเอก อกนิษฐ์ และ พลเอก บุญธรรม ณ รัฐสภา เพื่อประสานต่อไปยังกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ให้แก้ไขประกาศสิ่งแวดล้อมที่ติดขัดดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับกฏกระทรวงโรงแรม(ฉบับที่ 4) ปี พ.ศ.2566 ที่มุ่งหวังให้ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กที่เปิดให้บริการก่อนปี พ.ศ.2559 สามารถยื่นขอใบอนุญาตโรงแรม เข้าสู่ระบบได้อย่างถูกต้อง

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) นำโดย นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสทท. และนางวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์ รองประธานสทท.เขตพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโรงแรมขนาดเล็ก แก้ไขปัญหานี้ร่วมกัน เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทย ซึ่งเป็น Quick Win ในการนำรายได้เข้าประเทศ โดยทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตั้งเป้าหมายไว้ 25-30 ล้านคน มูลค่า 2.38 ล้านล้านบาท ในปี พ.ศ.2566 นี้ จากข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมทั้งประเทศ วันที่ 1 มกราคม – 30 กันยายน พ.ศ. 2566 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมกว่า19 ล้านคน เป็นเงิน 1ล้านล้านบาท

ซึ่งในปีที่ผ่านมาช่วงเดือน พฤศจิกายน 65 – กุมภาพันธ์ 66 จำนวนห้องพักที่เปิดรวมไม่เพียงพอต่อการให้บริการนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีจำนวนห้องพักที่เปิดรวมน้อยกว่าร้อยละ 40 ของห้องพักเปรียบเทียบกับช่วงก่อนวิกฤติการณ์โควิด19 เพื่อเป็นการเพิ่ม Supply Side ในฤดูท่องเที่ยวที่จะถึงนี้ สทท.จึงนำเรียนประธานคณะกรรมาธิการคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดินวุฒิสภา ช่วยติดตามเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายข้างต้น เพื่อช่วยแก้ปัญหาเรื่องใบอนุญาตของโรงแรมโดยด่วน เนื่องจากใบอนุญาตโรงแรมจำเป็นต่อการขอเงินกู้จากธนาคาร เพื่อใช้ในการปรับปรุงอาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม เพื่อให้โรงแรมที่ยังปิดอยู่สามารถปรับปรุงและเปิดได้ทันในฤดูการท่องเที่ยวนี้ เพื่อให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น เป็นการกระตุ้นตัวเลขทางเศรษฐกิจ เกิดการจ้างงาน เพิ่มรายได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี

Subscribe