มูลนิธิบุญรอด -เอกพจน์ วานิช มอบทุนการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษา ในภูเก็ต

มูลนิธิบุญรอด -เอกพจน์ วานิช มอบทุนการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษา ในภูเก็ต ที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ต่อเนื่องปีที่ 27 จำนวน 26 ทุน ดูแลจนจบปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และเยาวชนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือระดับอุดมศึกษา

ที่ บ้านวานิช อ.เมือง จ.ภูเก็ต มูลนิธิบุญรอด -เอกพจน์ วานิช ได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษา ครั้งที่ 27 โดยมี นางอัญชลี วานิช เทพบุตร ประธานมูลนิธิบุญรอด – เอกพงน์ วานิช เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษา และมี คณาจารย์ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ปกครอง นักเรียน นักศึกษา เข้าร่วม

นางอัญชลี วานิช เทพบุตร ประธานมูลนิธิบุญรอด – เอกพงน์ วานิช กล่าวว่า มูลนิธิ บุญรอด – เอกพงน์ วานิช เกิดขึ้นจากการดำริของคุณแม่บุญรอด ที่ต้องการสละทรัพย์จัดตั้งเป็นกองทุนการศึกษาให้แก่เด็กในจังหวัดภูเก็ต ที่มีความประสงค์จะศึกษา เล่าเรียน แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้มีโอกาสได้ศึกษาต่อ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้กับเยาวชนของชาติ ให้เป็นผู้มีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา จึงได้จัดตั้งมูลนิธิ บุญรอด – เอกพจน์ วานิช ขึ้น เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2539 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อจัดสรรทุนการศึกษาแก่ นักเรียน นักศึกษา ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ส่งเสริมงานวัฒนธรรม ดำเนินการเพื่อสาธารณประโยชน์ โดยเริ่มมอบทุนการศึกษาสำหรับนักเรียน นักศึกษาที่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน มีความประพฤติเรียบร้อย แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์
โดยเริ่มมอบทุนตั้งแต่ ปี พ.ศ.2540 จนถึงปัจจุบัน รวม 26 ครั้ง จำนวน 653 ทุน เป็นเงิน 2,419,000 บาท สำหรับปี 2566 นี้ มีเยาวชนที่ได้รับทุนจากมูลนิธิคุณแม่บุญรอด – เอกพจน์ วานิช ทั้งหมด 26 ทุน ประกอบด้วย เด็กซึ่งอยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ และอยู่ในคุณสมบัติตามที่มูลนิธิฯกำหนดไว้จะได้รับการดูแลจนจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และเยาวชนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือระดับอุคมศึกษา ซึ่งมีผลการเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นต้น

ขอให้ผู้ที่ได้รับทุนการศึกมาตั้งใจศึกษาเล่าเรียนตามที่ได้ตั้งใจไว้อย่างเต็มที่ มีความอดทน มานะ อุตสาหะ ตั้งใจจริงพร้อมฝ่าฟันอุปสรรด และสร้างความสำเร็จให้กับตนเอง เพื่อที่จะจบการศึกษาออกไป และเป็นพลเมืองที่ดีของชาติบ้านเมืองต่อไป” นางอัญชลี กล่าวและว่า

วันนี้ได้มีทั้งคณาจารย์ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ปกครอง นักเรียน นักศึกษา ในโอกาสนี้ดิฉันใคร่ขออันเชิญพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับนักเรียน นักศึกษา ที่มารับทุนในวันนี้ การศึกษาต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน คือ 1.มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ต้องมีความรู้ ความเข้าใจ ที่มีต่อชาติบ้านเมือง ยืดมั่นในศาสนา มั่นคงในสถาบันพระมหากษัตริย์ มีความเอื้ออาทรต่อครอบครัว และชุมชนของตน

2. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม ให้รู้จักแยกแยะสิ่งที่ผิด ที่ถูก สิ่งชั่ว- สิ่งดี เพื่อปฏิบัติแต่สิ่งที่ชอบที่ดีงาม ปฏิเสธสิ่งที่ผิดที่ชั่ว เพื่อสร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง 3. มีงานทำ มีอาชีพ ต้องให้เด็กรักงาน สู้งาน ทำงานจนสำเร็จ อบรมให้เรียนรู้การทำงานให้สามารถเลี้ยงตัว และเลี้ยงครอบครัวได้ เป็นพลเมืองดี การเป็นพลเมืองดีเป็นหน้าที่ของทุกคน สถานศึกษาและสถานประกอบการต้องเสริมให้ทุกคนมีโอกาส ทำหน้าที่พลเมืองดี การเป็นพลเมืองดีหมายถึงการมีน้ำใจ อาทร ต้องทำงานอาสาสมัคร งานบำเพ็ญประโยชน์ ” เห็นอะไรที่จะทำเพื่อบ้านเมืองได้ก็ต้องทำ

ขอให้นักเรียน นักศึกษา ที่ได้รับทุนทุกคน ยึดถือพระบรมราโชบายนี้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ประพฤติตนให้สมกับการเป็นนักเรียนนักศึกษาที่ดี เป็นลูกที่น่ารักของพ่อแม่ เป็นศิษย์ที่ดีของครู อาจารย์ และเป็นพลเมืองดีของชาติ ต่อไป

Subscribe