รวบแล้วหนุ่มยะลาที่ตะเวนก่อเหตุลักทรัพย์ในตัวเมืองภูเก็ต 7 ครั้ง สารภาพรับทำจริง
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.เอกลักษณ์ บุญแสงเจริญ ผกก.สืบสวน.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.ต.ทัพไทย ลีลานนท์ สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต ร.ต.อ.ตะวัน นวลแก้ว รองสว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมกันจับกุม นายสมชาย แซ่ซิน อายุ 44 ปี ที่อยู่ 65 ถ.ประชาธิปัตย์ ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา พร้อมด้วยของกลาง เงินสดจำนวน 50,140 บาท เครื่องบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด จำนวน 2 ตัว โทรทัศน์ จำนวน 1 เครื่อง ปืนพกสั้น จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 6 นัด เสื้อผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุ 1 ชุด ถุงมือช่างสีดำ จำนวน 1 คู่ หมวกโหม่ง จำนวน 1 ใบ กระเป๋าสะพายข้างสีเขียว จำนวน 1 ใบ โดยสามารถจับกุมได้ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซอยสุทัศน์ 2 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต
สำหรับการจับกุมดังกล่าว ตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเข้าไปขโมยเงินและทรัพย์สินอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ร้านนวด ร้านเบเกอรี่ ธนาคาร ร้านทอง ร้านขนมจีน ซึ่งอยู่บริเวณถ.เยาวราช ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต โดยชุดสืบสวนได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนทราบว่าคนร้ายเป็นใครและเป็นคนเดียวกัน จนทราบว่า คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าคลิก สีแดง-ดำ ทะเบียน 1กถ 1494 สุราษฎร์ธานี และทราบผู้ครอบครองรถโดย โรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองภูเก็ต จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปยังโรงแรมดังกล่าวโดยพักอาศัยอยู่ในห้องจึงได้เคาะประตูและผู้ต้องหาได้เปิดประตูออกมา ชุดจับกุมจึงเข้าไปตรวจสอบภายในห้อง พบของกลางดังกล่าว จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่สภ.เมืองภูเก็ต
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเพิ่งอยู่ที่ภูเก็ตได้เพียง 1 เดือน ไม่มีงานทำตะเวนลักทรัพย์อย่างเดียว โดยเช่าโรงแรมอยู่และจะเลือกสถานที่ที่เข้าง่าย เมื่อทรัพย์สินได้มาจะเก็บไว้ ส่วนเงินสดถ้าได้มาก็จะนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยก่อเหตุมาแล้ว 7 ครั้ง และเคยติดคุกมา 5 ปีในคดีลักทรัพย์พื้นที่จ.ยะลา
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือ รับของโจร ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
