เจ้าหน้าที่ สสจ.อ.ถลาง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่คัดกรองเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ชุมชนนาใน ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชน ประมาณ 22 คนแล้ว
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอถลาง จ. ภูเก็ต ร่วมกับ โรงพยาบาลถลาง, เทศบาลตำบลเทพกระษัตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการตรวจคัดกรองเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ชุมชนนาใน หมู่ที่ 7 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชน และถูกส่งไปรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว รวมถึงผู้ที่สัมผัสเสี่ยงสูงก็ได้นำตัวเข้าสู่สถานที่กักกันจองรัฐเพื่อรอดูอาการ ขณะเดียวกันทางเทศบาลตำบลเทพกระษัตรีได้มีคำสั่งปิดทางเข้า-ออกชุมชนเป็นการชั่วคราวเบื้องต้นเป็นเวลา 14 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด รวมทั้งเพื่อนำคนในชุมชนจำนวนประมาณ 400 คน มาทำการสวอปหาเชื้อโควิด-19 เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ และยังเป็นการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อในวงกว้างด้วย
นายประสงค์ ไตรรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลเทพกระษัตรี เปิดเผยว่า หลังจากมีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชนเบื้องต้นจำนวน 8 ราย และต่อมามีผู้เสียชีวิต 2 ราย เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาด จึงได้มีการออกคำสั่งปิดเส้นทางเข้า-ออกชุมชนเป็นการชั่วคราวทุกด้านตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมทีผ่านมา โดยเฉพาะในช่วง 3 วันแรกคนในห้ามออกและคนนอกก็ห้ามเข้าเด็ดขาด เพื่อทำการตรวจคัดกรองและค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในส่วนของผู้ที่อยู่ในชุมชนประมาณ 400 คน พร้อมกันนี้ได้ทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในชุมชน ตลอดจนจัดกำลังเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลป้องกันไม่ให้มีการลักลอบออกมาภายนอก ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
“ขณะนี้มีตัวเลขยืนยันผู้ป่วยสะสมแล้ว 22 ราย และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งในส่วนของผู้ป่วยนั้นได้นำตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว และในจำนวนดังกล่าวมีอาการหนักอยู่ด้วย 2 ราย ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งตรวจคัดกรองผู้ที่อยู่ในชุมชนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะหากพบเพิ่มเติมจะได้เร่งนำตัวเข้ารับการรักษา และในระหว่างนี้ได้สั่งกำชับให้ทุกคนอยู่เฉพาะในบ้านของตัวเอง ห้ามออกมาพบปะกันเป็นการชั่วคราว และให้ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เนื่องจากส่วนใหญ่จะเป็นเครือญาติและมีบ้านเรือนที่ติดกัน”
อย่างไรก็ตาม นายประสงค์ กล่าวด้วยว่า ในระหว่างที่มีการประกาศปิดเส้นทางเข้าออกชุมชนนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับคนในชุม ทางเทศบาลฯ ได้มีการจัดส่งอาหารให้แต่ละครัวเรือนวันละ 3 มื้อ โดยใช้งบของเทศบาลฯ เองและก่อนหน้านี้ทางฝ่ายปกครองอำเภอถลาง ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอถลาง และภาคเอกชน ได้แจกถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนไปแล้วเบื้องต้นเช่นกัน ทั้งนี้เหตุที่ต้องปิดห้ามเข้าออกชุมชนนั้น เพื่อเป็นการจำกัดวงของการแพร่ระบาด และเป็นการป้องกันไม่ให้มีการนำเชื้อไปแพร่กระจายข้างนอกซึ่งจะยากต่อการควบคุม
