สภาสมาคมสตรีแห่งชาติจัดโครงการ 910 ทุนการศึกษาเพื่อนักเรียนที่ขาดแคลน จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่

สภาสมาคมสตรีแห่งชาติจัดโครงการ 910 ทุนการศึกษาเพื่อนักเรียนที่ขาดแคลน จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา

ที่ ห้องประชุมสมเด็จย่า 120 ปี โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ นางสาวสุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมดนตรีแห่งชาติ พร้อมด้วย นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางบุญวันดี วุ่นซิ้ว นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง สมาชิกสมาคมสตรีแห่งชาติและนักเรียนเข้าร่วม

นางสาวสุกัญญา กล่าวว่า ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนีพันปีหลวงในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 สภาสมาคมสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณทรงรับสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ ไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์และพระราชทานวันสตรีไทย สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ จึงได้ดำเนินโครงการ 910 ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ขาดแคลนเพื่อถวายพระราชกุศลในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 และเพื่อมอบโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชน จากครอบครัวกลุ่มเปราะบางและจากครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและขาดแคลนทุนทรัพย์และเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนและลดภาระผู้ปกครองในภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบาก

โดยมีนักเรียนเข้าร่วมรับทอนจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จังหวัดกระบี่ จังหวัดพังงา จำนวน 39 ทุน ทุนละ 3,000 บาท ซึ่งการมอบทุนการศึกษาวันนี้นับเป็นครั้งที่ 12 ในโครงการ 910 ทุนการศึกษาเพื่อนักเรียนที่ขาดแคลน

นายณรงค์ กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตมีนโยบายหลักในเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเปราะบางให้หลุดพ้นจากภาวะความยากจนและมีคุณภาพที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนและการให้โอกาสทางการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ โดยกำหนดประเด็นการพัฒนาจังหวัดในด้านการส่งเสริมให้จังหวัดภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการศึกษานานาชาติในระดับภูมิภาคและส่งเสริมความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เนื่องจากการศึกษาเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ฉะนั้น จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงาน องค์กรและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงระบบการศึกษาได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรมให้มีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนจนจบการศึกษาในระดับต่าง ๆ เพื่อนำความรู้ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวไม่ให้เด็กและเยาวชนที่หลุดออกไปจากระบบการศึกษาได้มีโอกาสฝึกฝนทักษะอาชีพเพื่อเป็นลู่ทางในการหาเลี้ยงชีพและแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน ในภาวะสังคมยุคปัจจุบันที่เป็นโลกไร้พรมแดน เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตผู้คนเป็นอย่างมาก เป็นสังคมที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและก้าวกระโดด จึงมีปัจจัยหลายอย่างที่น่าเป็นห่วงต่อเด็กและเยาวชน ซึ่งครอบครัว สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐและเอกชนต้องให้ความสำคัญในการดูแลเอาใจใส่และช่วยเหลืออย่างเป็นระบบและตรงจุด จะช่วยทำให้เด็กและเยาวชนมีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัยสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข

Subscribe