สลด! คราบน้ำมันเข้าภูเก็ต พังงา ส่งผลกระทบวงกว้าง เต่าทะเลติดคราบน้ำมัน

สลด! คราบน้ำมันเข้าภูเก็ต พังงา ส่งผลกระทบวงกว้าง เต่าทะเลติดคราบน้ำมัน นักวิชาการจี้ต้องหาที่มาของการเกิดคราบน้ำมันให้ได้ ชี้ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติอย่างร้ายแรง

จากกรณีมีคราบน้ำมันสีดำปริศนาถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นที่หาดต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต พังงา และคาดว่าจะมีพื้นที่อื่นๆ ในฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตได้มีการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อเก็บกวาดคราบน้ำมันที่ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นบริเวณชายหาด เพื่อลดปัญหาในเบื้องต้น

แต่อย่างไรก็ตาม คราบน้ำมันที่ถูกคลื่นซัดเข้ามานั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชายหาดเท่านั้น แต่ยังได้ส่งผลกระทบต่อเต่าทะเล ซึ่งมักจะว่ายน้ำขึ้นมาบริเวณผิวน้ำ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา มีการพบลูกเต่าตนุ ถูกคราบน้ำมันติดตามลำตัวและถูกคลื่นซัดมาติดชายหาดในพื้นที่ อ.ถลาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปช่วยเหลือล้างทำความสะอาด และเฝ้าติดตามซึ่งดูแลไว้ที่โรงพยาบาลสัตว์ทะเลหายาก กรมทะเล

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า พบเต่าตัวที่ 2 ติดคราบน้ำมัน โดยพบที่เกาะราชา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อเช้า ซึ่งได้รับแจ้งจากเพื่อนธรณ์ โดยจุดที่พบอยู่ห่างฝั่ง จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการเช็ดด้วยน้ำมันพืชและน้ำยาทำความสะอาดสัตว์ที่ปลอดภัย ตอนนี้ส่งน้องเต่าไปโรงพยาบาลสัตว์ทะเลหายากภูเก็ตแล้ว

อย่างไรก็ตาม ดร.ธรณ์ ยังได้ให้คำแนะนำในการช่วยเหลือเต่าที่ติดคราบน้ำมัน ว่า เมื่อพบเต่าเปื้อนคราบน้ำมัน ติดต่อคุณหมอตามโรงพยาบาลสัตว์ทะเลหายาก กรมทะเล (มีหลายแห่ง) หรือเจ้าหน้าที่กรมทะเลให้ช่วยประสาน การรักษาเบื้องต้นควรปรึกษาคุณหมอเท่านั้น เพราะเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้คราบน้ำมันลอยไปตามชายฝั่งตะวันตกเข้าหลายหาด บางส่วนไปที่เกาะราชา หวังว่าคงไม่มีน้องเต่าตัวต่อไป ทั้งหมดนั้นเป็นปลายเหตุ ต้นเหตุคือทำอย่างไรให้ไม่มีคราบน้ำมัน ตรวจการณ์ ป้องกัน จับกุมอย่างไร เพราะนอกจากสัตว์หายาก ยังรวมถึงแนวปะการังมากมายแถวนั้น ชายหาดที่โด่งดังไปทั่วโลก ความสูญเสียเกิดทั้งระบบนิเวศ สัตว์หายาก และเศรษฐกิจท่องเที่ยว

ตอนนี้เท่าที่ทราบเรากำลังเช็กเรือที่ผ่านไปมาแถวนั้น อีกทั้งนำน้ำมันไปวิเคราะห์ อาจเป็นดีเซลหรือน้ำมันเครื่อง เมื่อไม่มีข่าวเรือเกิดอุบัติเหตุ เป็นไปได้ว่าอาจแอบทิ้ง ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุหลักของคราบน้ำมันในไทย อีกทั้งจัดการยากเย็น เพราะบางครั้งทิ้งไหลแต่คลื่นลมพัดเข้ามา เช่นช่วงมรสุมอันดามันในตอนนี้

จะยังไงก็แล้วแต่ เราต้องพยายามทำอะไรให้ได้ดีกว่านี้ จะให้กรมเจ้าท่าทำเพียงลำพังคงไม่ไหว อีกหลายหน่วยงานต้องช่วยกัน ในส่วนของกรมทะเล ทีมคุณหมอพร้อม หากมีอะไรต้องเสริม เราจะหาทางต่อไป

ผมเป็นประธานคณะสัตว์ทะเลหายาก ยังเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการ กจน. (กำจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน/เคมีภัณฑ์) จะพยายามเท่าที่ทำได้ แต่ถึงตอนนี้ยังไม่ได้ประชุมเลย เพราะมีนายกรัฐมนตรีหรือรองหรือ รมต. เป็นประธาน ต้องรอความชัดเจน ตอนนี้ที่ทำได้คือแจ้งเพื่อนธรณ์ให้ช่วยดู พยายามสนับสนุนคุณหมอกรมทะเลและอื่นๆ ติดตามสถานการณ์ระบบนิเวศที่หลายหน่วยงานคงช่วยกัน

สักวันคงมีโอกาสได้หาทางเสนอยกเครื่องระบบของเราบ้าง เช่น การบูรณาการร่วมกัน การใช้อุปกรณ์ เทคโนโลยีเฝ้าระวัง การลาดตระเวนชายฝั่งเป็นประจำ การตามหาผู้กระทำผิดให้สำเร็จสักครั้ง เพราะเราคงไม่สามารถมาตามเช็ดเต่าได้ทีละตัวไปเรื่อยๆ ครับ

Subscribe