เจอปืนแล้วทิ้งอยู่ในขุมน้ำ หลักฐานมัดมือปืนคาซัคสถาน ด้านเจ้าตัวปฎิเสธทุกข้อหาถูกออกหมายจับ
ความคืบหน้าคดีชาวชายรัสเซียซึ่งถูกชายชาวคาซัคสถานใช้อาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บบริเวณย่านการค้าในพื้นที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่า เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2566 ศาลจังหวัดภูเก็ตได้ออกหมายจับที่ จ.333/2566 ชายชาวคาซัคสถาน ซึ่งได้มีการควบคุมตัวได้ที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ระหว่างกำลังเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิดความผิดฐาน พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เบื้องต้นจากการสอบปากคำโดยผ่านล่าม ผู้ต้องหาชายชาวคาซัคสถานดังกล่าวปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา และบอกว่า ไม่รู้เห็นใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้เนื่องจากชายคนดังกล่าววีซ่าหมดอายุทำให้ถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวว่า อยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ ในส่วนของชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8, หน่วยปฎิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจภูธรเชิงทะเล ตลอดจนกำนันตำบลเชิงทะเล, ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตที่ได้ช่วยกันทำการค้นหาอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุและได้นำไปทิ้งไว้ในขุมน้ำ (ขุมเหมืองเก่า) ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 1 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา โดยใช้วิธีการต่างๆ ทั้งการผลักดันสูบน้ำออกจากขุมน้ำเพื่อให้ปริมาณน้ำเหลือน้อยที่สุด ใช้เครื่องสแกนหาวัตถุ และการใช้กำลังพลลุยงมหา เนื่องจากลักษณะของพื้นในขุมน้ำเป็นดินโคลน จนกระทั่งล่าสุดเมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา (9 มิ.ย.66) พบอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุดังกล่าวแล้ว โดยฝังอยู่ในโคลนห่างจากขอบของขุมน้ำไปประมาณ 10-12 เมตร ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นปืนขนาด.38 มม.ลูกโม่ ซึ่งภายในรังปืนยังมีกระสุนอยู่อีก 2 นัด ซึ่งถือเป็นวัตถุพยานสำคัญ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้นำไปดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
