เต่ามะเฟือง อายุ 30-35 ปี หนักกว่า 300 โล ขึ้นมาวางไข่

เต่ามะเฟือง อายุ 30-35 ปี หนักกว่า 300 โล ขึ้นมาวางไข่อีกครั้ง หลังจากครั้งแรกไม่พบไข่ แต่ครั้งนี้พบไข่เต่าทั้งหมด 129 ฟอง ไข่ดี 92 ฟอง และไข่ลม 37 ฟอง เจ้าหน้าที่ฯขึดขุดเพื่อนำไปทำการเพาะฟักยังศูนย์วิจัยฯ

เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเต่ามะเฟืองยักษ์น้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัมที่เคยขึ้นมาหาที่วางไข่เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้กลับขึ้นมาวางไข่ที่บริเวณชายหาดกะรนหน้าโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์อีกครั้ง หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย นายสุเทพ เจือละออง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน, นายหิรัญ กังแฮ นักวิชาการฯ และเจ้าหน้าที่ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยมี นางสาววิลัยพร และ นางสาวกัญญนัท พงษ์กฐิน ผู้ซึ่งพบเต่ามะเฟืองขึ้นมาจากทะเล คอยเฝ้าสังเกตสถานการณ์ และทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่แจ้งไว้ก่อนหน้านี้ โดยไม่เข้าไปรบกวนและส่งเสียงดัง ปล่อยให้แม่เต่าขุดหลุมวางไข่และฝังกลบทรายจนแล้วเสร็จกลับลงทะเล ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ ได้หารือกับทาง เรือเอกเจด็จ วิชรศรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลกะรน และ นางสาวอรุณศรี กลั่นมา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต พบว่า บริเวณหลุมไข่เต่าดังกล่าวเป็นจุดที่น้ำทะเลท่วมถึง หากปล่อยไว้ก็จะส่งผลกระทบกับไข่เต่าได้ จึงทำการขุดเพื่อนำไปทำการเพาะฟักยังศูนย์วิจัยฯ พบไข่เต่าทั้งหมด 129 ฟอง เป็นไข่ดี 92 ฟอง และไข่ลม 37 ฟอง รวมทั้งจะได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีการผสมน้ำเชื้อแล้วหรือไม่

นายสุเทพ เจือละออง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน กล่าวว่า สำหรับแม่เต่ามะเฟือง มีอายุประมาณ 30-35 ปี และครั้งนี้เป็นการกลับมาวางไข่ครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรกขึ้นมาแล้วไม่ได้วางไข่แต่อย่างใด โดยจะนำไข่ไปเพาะฟักที่ศูนย์วิจัยฯ เนื่องจากจุดที่วางไข่นั้นน้ำทะเลท่วมถึง หากปล่อยไว้ไข่อาจจะเสียหายได้ และอาจจะถูกรบกวนจากผู้ที่มาใช้พื้นที่บริเวณชายหาดหรือสัตว์อื่นๆ โดยจะใช้เวลาในการเพาะฟักประมาณ 2 เดือน หลังจากนั้นจะนำกลับมาปล่อยยังจุดเดิม ขณะเดียวกันยังต้องเฝ้าระวังต่อไปอีกประมาณ 10-15 วัน เนื่องจากแม่เต่าจะกลับขึ้นมาวางไข่อีกครั้ง

Subscribe