แพทองธาร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อไทยฝากพี่น้องชาวใต้ไว้วางใจเลือกเพื่อไทยเป็นตัวแทนชาวใต้แก้ไขวิกฤติปากท้อง

แพทองธาร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อไทยฝากพี่น้องชาวใต้ไว้วางใจเลือกเพื่อไทยเป็นตัวแทนชาวใต้แก้ไขวิกฤติปากท้อง พัฒนาศักยภาพภูเก็ตให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ

พรรคเพื่อไทยเปิดเวทีปราศรัย คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน เพื่อชาวภูเก็ต ณ อาคารยิมเนเซียม (สะพานหิน) อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยมีประชาชนเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยเต็มพื้นที่ยิมเนเซียมเกือบ 3,000 คน โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แหลงใต้ทักทายชาวภูเก็ตฝากพี่น้องชาวใต้ไว้วางใจเลือกเพื่อไทยเป็นตัวแทนชาวใต้แก้ไขวิกฤติปากท้อง พัฒนาศักยภาพภูเก็ตให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยทราบดีว่าจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกินปัญหาใหญ่สำหรับการท่องเที่ยว รายได้ของพี่น้องประชาชนหดหาย และยังคงไม่สามารถฟื้นฟูได้อย่างเต็มรูปแบบ พรรคเพื่อไทยจึงเตรียมพร้อมพัฒนาการท่องเที่ยวให้เติบโตได้มากกว่า 4 เท่าภายใน 4 ปี คืนความมั่งคั่งให้ชาวภูเก็ต

นางสาวแพทองธาร ยังได้ฝากพี่น้องชาวภูเก็ตเป็นแรงสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ให้เอาชนะส.ว. ในสภา เพื่อจัดตั้งรัฐบาลจากพรรคเพื่อไทย ไม่ให้ซ้ำรอยเลือกตั้ง 2562 อย่าลืมเลือกพรรคเพื่อไทยเบอร์ 29 และเลือกส.ส.เขตจากพรรคเพื่อไทย ให้แลนด์สไลด์ทั้งภูเก็ต

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ได้ลงพื้นที่ภาคใต้ รู้สึกปลื้มปิติมากที่พี่น้องประชาชนให้การต้อนรับอย่างเนืองแน่นเต็มพื้นที่โรงยิมแห่งนี้ ส่วนตัวแล้วผูกพันกับภูเก็ต ตั้งแต่สมัยที่ยังอยู่ในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และซึมซับถึงวัฒนธรรมชาวภูเก็ต

“วันนี้พรรคเพื่อไทยมาเต็มทีม เพราะภาคใต้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต ที่สร้างรายได้ให้ประเทศไทยนับแสนล้านบาทต่อปี ซึ่งทุกคนล้วนเป็นกลจักรสำคัญในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม จังหวัดภูเก็ตยังสามารถเติบโตได้อีกมาก ทั้งในแง่การท่องเที่ยว ที่ควรขยายสนามบิน ถนนหนทาง รองรับนักท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวอยากจะมาใช้ชีวิตที่ภูเก็ต รวมถึงการสร้างถนน การเจาะภูเขามาป่าตองเพื่อลดอุบัติเหตุ การสร้างรถไฟไฟฟ้านำความเจริญด้านคมนาคม เป็นเรื่องใหญ่ที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญถ้าหากเราได้เข้ามาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ”

“พรรคเพื่อไทยจะยกระดับภูเก็ตเป็นจุดมุ่งหมายระดับโลก เช่นเดียวกับเมืองโมนาโค เมืองมิโคนอส ประเทศกรีซ และหลายๆ เมืองที่เจริญแล้วในยุโรป พัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานให้พี่น้องได้อยู่สบาย ทำให้เมืองภูเก็ตเป็นเมืองที่พระอาทิตย์ไม่ตกดิน เปิดสถานที่ท่องเที่ยวได้ 24 ชั่วโมง พร้อมจัดสรรตำรวจดูแลความปลอดภัยเพิ่มอีกเท่าตัว”
นอกจากนี้นายเศรษฐายังได้เน้นน้ำนโยบายของพรรคเพื่อไทย ทั้งการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน การจัดสำรวจครัวเรือนและเติมเงินให้ทุกครอบครัวถึง 20,000 บาททุกเดือน กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาทสำหรับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป พร้อมยกระดับการปราบปรามยาเสพติด จับกุมผู้ผลิตและผู้ค้า ทำให้กลไกการยึดทรัพย์ผู้กระทำผิดรวดเร็วฉับไวขึ้น ตัดต้นตอการผลิต ไม่ทำให้ลูกหลานต้องกลับไปเสพยาอีก

“วันนี้มาขอโอกาสให้กับผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดภูเก็ต พรรคเพื่อไทย ทั้ง 3 คน ผมเข้าใจดีว่าท่านอาจผูกพันกับบางพรรคการเมืองมายาวนาน แต่ครั้งนี้ขอให้เลือกผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดภูเก็ต พรรคเพื่อไทย ได้เข้าไปช่วยผลักดันให้ภูเก็ตไปถึงศักยภาพที่จังหวัดนี้สามารถไปได้ รัฐบาลเพื่อไทยจะถือธงนำประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ขอโอกาสให้พรรคเพื่อไทยได้รับใช้คนภูเก็ต ติดอาวุธให้จังหวัดภูเก็ตเดินไปข้างหน้า นำความสุขมาให้พี่น้องชาวภูเก็ตทุกคน” นายเศรษฐากล่าว

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มั่นใจว่าภูเก็ตจะเปลี่ยนแปลงถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล โดยจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่ต้องเสียภาษีอันดับต้นๆของประเทศไทย แต่รัฐบาลที่บริหารมา 8 ปี กลับทำให้เกษตรกร ชาวประมงและผู้ประกอบการการท่องเที่ยวต่างได้รับความเดือดร้อน ทำให้ความยากจนเกิดขึ้นทั้งภูเก็ต และตอกย้ำความเดือดร้อนด้วยค่าครองชีพที่แสนแพง

ทั้งนี้จากการที่ตนได้พบปะพี่น้องผู้ประกอบการการท่องเที่ยวพบว่า ไม่มีมาตรการสำหรับการดูแลปัญหาต่างๆของผู้ประกอบการ รายได้พี่น้องเกษตรกรยางพาราลดลงจากสมัยก่อน อยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท ปัจจุบัน 4 กิโลกรัม อยู่ที่ 100 บาทเท่านั้น ถนนคับแคบทำให้จราจรติดขัด ทั้งหมดนี้คือปัญหาของรัฐบาลที่ไม่เคยคิดจะแก้

นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมคิดใหญ่ทำเป็น และจัดใหญ่จัดเต็มให้พี่น้องชาวภูเก็ต การเลือกพรรคเพื่อไทยนั้น ต้องเลือกทั้งคนทั้งพรรค แล้วเพื่อไทยจะได้เป็นรัฐบาลเพื่อแก้ไขความยากจนของพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ต และขอชวนเชิญให้ชาวภูเก็ต ในวันที่ 14 พฤษภาคม ไปลาออกจากความยกจนโดยการเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค

นายจาตุรนต์ ฉายแสง ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าจังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียงมีอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับประมง สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจปีละหลายหมื่นล้านบาทต่อปี จึงเป็นหน้าที่รัฐบาลต้องส่งเสริมพัฒนาเพื่อให้พี่น้องชาวภูเก็ตซึ่งเป็นผู้เสียภาษีให้รัฐบาลได้อยู่ดีกินดี แต่ในช่วง 8 ปีภายใต้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์กลับปล่อยปละละเลยพี่น้องให้ผจญสถานการณ์โควิดโดยลำพัง ปล่อยให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในจังหวัดทั้งโฮสเทลโรงแรมขนาดเล็กต้องจมอยู่กับปัญหาเรื่องกฎหมายจนกลายเป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากินพรรคเพื่อไทยมองว่าไม่ใช่เรื่องยาก เราเชื่อว่าทั้งปัญหาประมงและท่องเที่ยวจะสามารถแก้ไขได้ด้วยการกระจายอำนาจให้จังหวัดจัดการตนเอง ให้ภูเก็ตสามารถเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นของตัวเอง เมื่อภูเก็ตมีความพร้อมเลือกตั้งได้ผู้ว่าราชการจังหวัด จะสามารถประสานส่วนกลางคือรัฐบาล ช่วยจัดการแก้ไขปัญหาสาธารณูปโภคของภูเก็ตให้เป็นระบบ ยกร่างแก้ไขกฎหมายเพื่อลดอุปสรรคให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้ สามารถลงทุนระบบขนส่งสาธารณะให้มีประสิทธิภาพต้อนรับนักท่องเที่ยวให้มาใช้บริการเดินทางได้สะดวกมากขึ้น และทั้งหมดจะเป็นการส่งเสริมให้เศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตเติบโตขึ้นมาได้เหมือนแต่ก่อนอีกครั้ง

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ปราศรัยกับพี่น้องภูเก็ต เป็นภาษาใต้ว่า วันนี้มาสารภาพกับพี่น้องตรงๆ ว่าเบื่อหน่ายกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างมาก เพราะเราเห็นพลเอกประยุทธ์มาตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ซึ่งเดือนหน้าจะครบ 9 ปีแล้ว พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียวที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ถืออำนาจมาตรา 44 มีแต้มต่อเหนือพรรคการเมืองนักการเมืองทุกคนในประวัติศาสตร์ คุมกองทัพหน่วยงานต่างๆ เบ็ดเสร็จในมือ แบบไม่เคยมีพรรคการเมืองไหนเคยมีมาก่อน โดยมีข้ออ้างว่าจะเข้ามาปัดกวาดปฏิรูปการเมืองไทยให้สะอาด ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แต่ที่ผ่านมา เราเห็นแต่การทุจริตเกลื่อนเมืองไปหมด และเมื่อพลเอกประยุทธ์ มาลงเลือกตั้งเอง ประกาศนโยบายเลือกความสงบจบที่ลุงตู่ แจกนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาทต่อวัน ผ่านไป 4 ปี ก็ลบนโยบายตัวเองทิ้ง พอจะเลือกตั้งใหม่ก็ประกาศย้ายพรรคหนี ตั้งพรรคใหม่เป็นพรรครวมไทยสร้างชาติพรรคเพื่อไทยลงสนามเลือกตั้งครั้งนี้แบกน้ำหนักไว้เพราะเขามีเสียง ส.ว.รอแล้ว 250 คน ขณะที่เราเริ่มต้นที่ 0 เสียง ตอนนี้เพื่อไทยมั่นใจว่าได้คะแนนเสียงถึง 250 แต่เราจะตั้งนายกฯ ได้หรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องมีเสียงให้ถึง 375 เสียงขึ้นไป

“เพื่อไทยมาขอร้องพี่น้อง เลือกเพื่อไทยเพื่อให้บ้านเมืองหลุดจากพลเอกประยุทธ์เสียที เราไม่ได้มามือเปล่า แต่เรามาพร้อมกับนโยบายใหม่ๆ มากมาย เราเป็นพรรคการเมืองเดียวที่เดินหน้าด้วยนโยบาย ที่แก้ปัญหาให้พี่น้องได้จริง นโยบายดีๆ พรรคไหนก็แหล่งได้ แต่ที่ทำได้คือพรรคเพื่อไทย” นายณัฐวุฒิ กล่าว

Subscribe