โรงเรียนชื่อดังภูเก็ตประชุมร่วมเครือข่ายผู้ปกครองและศิษย์เก่า หาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ

โรงเรียนชื่อดังภูเก็ตประชุมร่วมเครือข่ายผู้ปกครองและศิษย์เก่า หาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ขณะที่รองผู้ว่าฯ เตรียมนำปัญหาเสนอที่ประชุมศึกษาธิการจังหวัด หลังพบระบบการสื่อสารระหว่างสถานศึกษากับเด็กมีปัญหา

จากกรณีโลกทวิตเตอร์แห่ติดเเท็ก #รร.สตรีชื่อดัง เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการเผยแพร่ข้อความ ซึ่งอ้างและระบุว่าเป็นแชทที่ครูหนุ่ม 2 ราย ซึ่งสอนวิชาศิลปะและพละศึกษา มีพฤติกรรมใช้คำพูดไม่เหมาะสมกับนักเรียนหญิง และทางผู้เสียหาย ได้รวบรวมหลักฐานไว้ก่อนนำออกมาโชว์ทางทวิตเตอร์ ทั้งนี้มีรายงานว่า ทางโรงเรียนต้นสังกัดได้มีการตั้งกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริงและ มีคำสั่งให้ครูชายทั้ง 2 คน ไปช่วยราชการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา พังงา ภูเก็ต ระนอง (สพม.พง.ภก.รน.) ไว้ก่อน

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ ผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุ กล่าวว่า หลังทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น พบว่า ครูคนดังกล่าวมีการกระทำตามที่ปรากฏในสื่อโซเซียลจริง จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชา คือ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา พังงา ภูเก็ต ระนอง (สพม.พง.ภก.รน.) ทราบ พร้อมขอทราบแนวทางการดำเนินการเบื้องต้นกับครูทั้ง 2 คน  ต่อมา สพม.พังงา ภูเก็ต ระนอง ได้มีคำสั่งให้ครูทั้ง 2 คน ไปช่วยราชการที่สำนักงาน สพม. ซึ่งครูทั้งสองคนได้เดินทางไปรายงานตัวและช่วยราชการตามคำสั่งดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังได้มีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน, สมาคมศิษย์เก่า, สมาคมครูผู้ปกครอง, ประธานมูลนิธิช่วยเหลือนักเรียนขาดแคลนทุนทรัพย์โรงเรียน รวมถึงประธานเครือข่ายและที่ปรึกษา เพื่อร่วมกันหารือแนวทางในการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นอีก ตลอดจนถึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ทางนักเรียนและผู้ปกครองต่อไปด้วย

ขณะที่ นายปิยะพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะดูแลด้านการศึกษาในภาพรวมของจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับรายงานเบื้องต้นจากทางสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดภูเก็ต เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทราบว่าทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพังงา ภูเก็ต ระนอง ซึ่งเป็นต้นสังกัดได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไรตามกระบวนการ และเบื้องต้นให้ครูที่ถูกกล่าวหาไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่ฯ มัธยมศึกษาไว้ก่อน ในระหว่างรอการตรวจสอบข้อเท็จจริง และจากเหตุการณ์ครั้งนี้จะได้มีการทบทวนการสื่อสารภายในสถานศึกษาต่างๆ ระหว่างครูกับนักเรียนให้มากขึ้น แทนการปล่อยให้เด็กมีการสื่อสารทางโซเซียลเพียงอย่างเดียว และทำอย่างไรที่จะไม่ให้มีเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีก  เพราะจากกรณีนี้แสดงให้เห็นว่าระบบการสื่อสารของเด็กกับโรงเรียนหรือผู้ปกครองมีช่องว่าง เนื่องจากเด็กมีการนำข้อมูลมาสื่อสารผ่านทางโซเซียล ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้อองแก้ไขเป็นการเร่งด่วน  โดยมีการนำประเด็นที่เกิดขึ้นเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการศึกษาจังหวัด เพื่อตั้งเป็นวาระของจังหวัดว่าทำอย่างไรในการที่จะสร้างพื้นที่ในการสื่อสารระหว่างเด็กนักเรียนและโรงเรียนให้มากกว่านี้ในสถานศึกษาทุกระดับชั้น

Subscribe